xs
xsm
sm
md
lg

อดีต รปภ.หมู่บ้าน “บิ๊กโจ๊ก” ยันชุด PCT 4 รู้แต่แรกว่าค้นบ้านใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



อดีต รปภ.ในหมู่บ้าน “บิ๊กโจ๊ก” เข้าให้ปากคำตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ยืนยันตำรวจชุด PCT 4 รู้แค่แรกแล้ว ว่ามาค้นบ้านใคร

วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายสหรัฐ อายุ 34 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มาลงบันทึกประจำวันและเป็นพยานในกรณีที่เจ้าหน้าที่จ้าหน้าที่ตํารวจชุด PCT 4 ตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่หมู่บ้านเห่งหนึ่งในซอยวิภาวดี 60 กทม. หลังสโมสรตำรวจ หลังพบมีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์

นายสหรัฐ กล่าวว่า วันนี้มาลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าวันนั้น (25 ก.ย.) ตนทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านเห่งหนึ่ง ซอยวิภาวดี 60 กทม. หลังสโมสรตำรวจ มีการเปลี่ยนเวรกับเพื่อนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผลัดเก่า เมื่อมาถึงทางเข้าหมู่บ้านได้พบกับบุคคลที่สวมใส่เสื้อด้านหลังปักคำว่า “CYBER”

นายสหรัฐ กล่าวต่อว่า ขณะเปลี่ยนเวรพบว่ามีรถยนต์ขับตามกันมา 4-5 คัน จึงสอบถามเพื่อทำการแลกบัตร โดยบุคคลดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะนำหมายค้นมาแสดงกับตน พอเห็นหมายค้นจึงจำเป็นต้องอนุญาตให้ตำรวจชุดดังกล่าวเข้าไปภายในหมู่บ้าน ยืนยันว่าตนทราบเหตุการณ์และข้อเท็จจริงดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว เพราะในวันและเวลาที่เกิดเหตุตนอยู่ที่ป้อมหน้าหมู่บ้านเพียงคนเดียว

นายสหรัฐ กล่าวด้วยว่า ที่มาลงบันทึกประจำวันเพื่อความสบายใจของตนเอง วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตํารวจนอกเครื่องแบบหลายนาย พร้อมรถยนต์หลายคันจะมาขอตรวจค้นบ้านพัก พร้อมแสดงหมายตรวจค้นจากศาล ซึ่งตนเองถามว่ามาค้นบ้านใคร เจ้าหน้าที่ตํารวจตอบชัดเจนว่า “ค้นบ้านนายโจ๊ก” จึงอนุญาตให้ตำรวจชุดดังกล่าวเข้าไปในหมู่บ้าน พอหลังจากเข้าตรวจค้นตำรวจชุดที่ตรวจค้นออกมาพูดย้อนแย้ง บอกว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งต่อศาลว่าจะขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ สุรเชษฐ์

นายสหรัฐ บอกว่า ตนได้บอกว่าหากตำรวจชุดดังกล่าวไม่ได้แสดงหมายค้นคงขอแลกบัตรเหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ เนื่องจากเป็นตนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่พอเห็นหมายค้นจึงจำเป็นต้องอนุญาตให้ตำรวจชุดดังกล่าวเข้าไปภายในหมู่บ้าน

ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน นายสหรัฐเผยว่า นิติบุคคลของหมู่บ้านสั่งห้ามไว้ แต่ตอนนี้ตนลาออกจากหน้าที่แล้ว ซึ่งลาออกเพราะเหตุผลส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงตัดสินใจมาลงบันทึกประจำวันไว้ หลังจากนี้หากพนักงานสอบสวนจะเรียกสอบปากคําเพิ่มก็ยินดีเข้ามาให้ปากคําเพิ่มเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะความจริงก็คือความจริง ไม่มีทางจะลบเลือนได้อย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น