ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายค้าปืนเถื่อนออนไลน์-ปลอมใบ ป.4

ผบช.สอท.แถลงผลงานตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการลุยค้น 14 จุด ทั่วประเทศทลายเครือข่ายปลอมใบ ป.4 และขายอาวุธปืนเถื่อนผ่านทางออนไลน์

วันนี้ (31 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จีระวัฒน์ พยุงธรรม รรท. รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รรท.ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รรท.ผบก.สอท.5 แถลงข่าวผลปฏิบัติการ Operation: S.A.F.E. HAVEN (S.A.F.E. ย่อมาจาก Security Apprehend Firearm Enforcement) ตรวจค้นทลายเครือข่ายปลอมใบ ป.4 ขายอาวุธปืนออนไลน์ 14 จุดทั่วประเทศ สามารถยึดของกลางเป็นปืนเถื่อน ใบ ป.4 ปลอม และยาบ้าหลายรายการ โดยปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านลงมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดในการซื้อขายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ที่มักจะนำมาใช้ก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรงสะเทือนขวัญ สร้างความไม่ปลอดภัยให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในห้วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยิ่งการกวาดล้างรอบล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นำมาสู่การขยายผลกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มีพฤติการณ์ผลิต ดัดแปลง จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนบนสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งยังพบว่ามีการลักลอบทำใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน หรือใบแบบ ป.4 ปลอมขึ้น เพื่ออำพรางการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการขยายผลการสืบสวนสอบสวนดังกล่าว จึงนำมาสู่การปิดล้อมตรวจค้นบุคคลสถานที่เป้าหมาย 14 ลจุดพร้อมกันทั่วประเทศใน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ลพบุรี จันทบุรี อุบลราชธานี เลย เชียงใหมา ชุมพร สุราษฎร์ธานี และตรัง ซึ่งผลปฏิบัติการดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 ราย หนึ่งในนี้รวมทั้งเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่รับทำใบแบบ ป.4 ปลอม และยังตรวจยึดของการสำคัญได้อีกหลายรายการ ได้แก่ ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธและเครื่องกระสุนหรือใบแบบ ป.4 ปลอม อาวุธปืนและสิ่งเทียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หรือยาบ้า รถยนต์ Audi สีขาวแดง นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เงินสด 47,090 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้ในการติดต่อสั่งซื้อสิ่งของผิดกฎหมาย

โดยผู้ต้องหาทั้ง 7 รายที่ถูกจับกุมได้ถูกดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนใช้ในการสงครามและนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจำนำ หรือรับไว้โดยประการซึ่งของอันตนพึงรู้ว่า เป็นของที่ไม่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน)

นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามกวาดล้างขบวนการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์แล้ว ยังได้ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการปิดบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกี่ยวกับอาวุธปืน จำนวน 291 บัญชี ในส่วนขบวนการปลอม ใบ ป.4 นั้นอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม คาดว่าไม่น่ามีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากปลอมไม่เหมือน ลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐจริงๆ

ซึ่งในการขออนุญาตทำ ใบ ป.4 นั้นจะต้องไปทำที่ทำการอำเภอหรือกรมการปกครองเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลทั้งกระบวนการซื้อขายอาวุธออนไลน์และขบวนการทำ ใบ ป.4 ปลอมต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่หลักที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ตำรวจไซเบอร์รับผิดชอบการกวาดล้างการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนในช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะ