“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 ตอน คดีนาฬิกาบิ๊กป้อม ป.ป.ช.หมดทางยื้อ ต้องเปิดเผยทั้งหมด
กรณีปัญหานาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นมหากาพย์ของการเมืองไทยเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องที่คาราคาซังมาเป็นเวลานานแล้ว
อย่างที่ทราบกันดีว่า เรื่องที่มีการร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จากนั้นในปี 2563 ป.ป.ช.มีความเห็นว่ากรณีนี้ไม่มีความผิด เนื่องจากเห็นว่าเห็นการยืมนาฬิกาดังกล่าว ไม่ถือเป็นหนี้สินที่ต้องยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.ตามกฎหมาย
ดังนั้น พลเอกประวิตร จึงไม่มีหน้าที่่ต้องแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวต่อป.ป.ช.แต่อย่างใด
แม้ว่าผลทางคดีจะยุติไปแล้วภายหลังป.ป.ช.ยืนยันว่าพลเอกประวิตรไม่มีความผิด แต่ผลในทางการเมืองกลับเกิดแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงตลอดมา เพราะด้านหนึ่งเกิดกระแสกดดันให้ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลการพิจารณาคดีดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส
ถึงขนาดที่มีการร้องไปยังศาลปกครองก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลการไต่สวนทั้งหมด ประกอบด้วย
1. รายงานสรุปผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งคณะทำงานรวบรวมเสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันที่มีมติเกี่ยวกับคดีนี้ รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ในคดีนี้ รวมทั้งหมด 4 ครั้ง เพราะเห็นว่าหน่วยงานรัฐมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด แต่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง แม้ศาลจะมีคำสั่งเป็นที่สุดบังคับมายังป.ป.ช.และป.ป.ช.ยืนยันจะเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด เพียงแต่จะขอไม่เปิดเผยรายงานความเห็นของเจ้าพนักงานป.ป.ช.เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการทำหน้าที่ พร้อมกับจะขอให้ศาลปกครองพิจารณากรณีดังกล่าวใหม่
ในที่สุดการพยายามยื้อของป.ป.ช.ก็เดินมาถึงสุดทาง เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด ไม่รับคำร้องของป.ป.ช.ที่ขอให้พิจารณาคดีใหม่ เป็นผลให้ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลการพิจารณาคดีทั้ง 3 รายการสำคัญ ได้แก่ 1. รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ การไต่สวน และการไต่สวนเบื้องต้น 2. ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
และ 3. รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวข้อง โดยถ้ามองตามกฎหมายแล้วจะพบว่าไม่มีช่องให้ป.ป.ช.ซื้อเวลาอีกต่อไป จึงเหลือแค่เพียงว่าป.ป.ช.จะเปิดข้อมูลตามคำสั่งศาลเมื่อใดเท่านั้น
จากนี้ไปต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของป.ป.ช.เพราะคดีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ประกอบกับพลเอกประวิตรยังคงมีตำแหน่งทางการเมืองในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อ ข้อมูลที่เปิดมาอาจมีผลให้ถูกนำไปขยายผลได้ เช่น การฟ้องคดีในความผิดเกี่ยวจริยธรรม เป็นต้น
ุีในทางกลับกันถ้าป.ป.ช.ยังคงนิ่งเฉยอีก อาจถูกกล่าวหาว่าจงใจปฏิบัติติหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย อันจะมีผลให้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 236
ทั้งนี้ ตามมาตรา 236 เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน ยื่นต่อประธานรัฐสภาให้ส่งเรื่องไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระจากบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะประกอบบุคคลจากหลากหลายวิชาชีพ เช่น อัยการ ผู้พิพากษา หัวหน้าส่วนราชการ นักวิชาการระดับศาสตราจารย์ เป็นต้น โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองพ.ศ. 2560 กำหนดเวลาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่ได้แต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ หากเห็นว่ามีความผิดจะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลตามขั้นตอนต่อไป
ดังนั้น จากกระบวนการและดูกันตามข้อกฎหมายทั้งหมด ป.ป.ช.ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องทำตามคำสั่งของศาลปกครอง หากไม่อยากถูกขึ้นชื่อว่าเป็นผู้รักษากฎหมายที่ทำผิดกฎหมายเสียเอง
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1