ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “มีน vogue” สร้างโปรไฟล์เป็นไฮโซ แฝงตัวเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงสาวผ่านสื่อออนไลน์ พบเหยื่อกว่า 30 ราย เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (28 ต.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายกฤติเดช พงษ์ประภาส หรือ ธนาธร จิตตา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ลักทรัพย์ และปลอมเอกสารราชการ หรือใช้เอกสารราชการปลอม และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ อ้างเป็นไฮโซแฝงตัวมาในรูปแบบนักต้มตุ๋น ที่ใช้หน้าตาหล่อเหลาของตัวเอง สร้างโปรไฟล์ในเพจเป็นหนุ่มไฮโซ ปลอมเป็น CEO บริษัทสร้างบ้าน และกรรมการสำนักงานกฎหมาย ทั้งในคลังภาพยังอวดนาฬิกาเรือนแพง และมีรถหรู อีกทั้งอ้างว่า รู้จักไฮโซคนดัง หรือผู้มีอำนาจอื่นๆ ซึ่งใช้ในการหลอกลวงเหล่าบรรดาหญิงสาวในโซเชี่ยลว่าได้เจอชายในฝันรักจริง และเมื่อนัดพบผู้เสียหายบางรายถูกลักเอาทรัพย์สิน ยืมเงิน โดยล่าสุด เหยื่อฐานะไม่ดีจะขอยืมเงิน 180 บาท โดยบอกว่า ขอเป็นค่าน้ำมันเพื่อขับรถไปรับ และเมื่อเหยื่อโอนเงินให้ ก็ปล่อยทิ้งให้ผู้หญิงยืนรออยู่เป็นเวลา 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีอายุเพียง 27 ปี แต่ทักษะการต้มตุ๋นเข้าขั้นโดยมิจฉาชีพ และจะเป็นที่รู้จักกันในนาม ธนาธร หรือ เสี่ยมีน vogue
กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสสำคัญจากเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งได้พบเห็นผู้ต้องหาวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังติดตามเบาะแสไปจนได้พบกับเหยื่อรายล่าสุด ซึ่งกำลังคบหากับผู้ต้องหา โดยชุดสืบสวนได้เบาะแสว่า ผู้ต้องหากำลังจะหลอกเอารถยนต์ของเหยื่อไปจำนำย่านเพชรเกษม ก่อนนำกำลังปูพรมทั่วพื้นที่ย่านสวนรถไฟกว่า 7 ชั่วโมง กระทั่งวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. จึงสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 17 แยก 10 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ ขณะกำลังหลอกลวงจะพาเหยื่อรายล่าสุดให้นำรถไปจำนำ
โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชีวิตของตนลำบากพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ทำให้ขาดคนสั่งสอน เกิดความหลงผิด ลองผิดลองถูกเอง ตนเป็นหนุ่มหน้าตาดี ชอบถ่ายรูปกับรถหรู เป็นหนุ่มโปรไฟล์ดีในโลกออนไลน์ เลยมีผู้หญิงเข้ามาเยอะ ตนจึงมีแฟนหลายคนคบซ้อนพร้อมกัน 4-5 คน เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาก็จะทำทีคบหากัน เพื่อหลอกยืมเงิน โดยเคยยืมสูงสุดหลักล้าน เพื่อไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ทำให้ชีวิตเกิดปัญหา เครียด ไม่มีเงิน เกิดปัญหาชีวิตเรื่อยมา ส่วนเรื่องที่ถูกจับตอนนั้นปี 63 ตนได้ทะเลาะกับผู้หญิงคนนึงเรื่องยืมเงิน จนทำให้โทรทัศน์ในห้องผู้หญิงคนนั้นพัง จึงยกออกไปขาย ยืนยันไม่ได้ขโมย ส่วนเรื่องคดีอื่นๆ ก็เป็นคดีเกี่ยวกับซื้อขายรถ ตนพยายามเคลียร์จนหมดแล้ว พร้อมเปิดหน้าเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และอยากเตือนผู้หญิงในโลกออนไลน์ ว่า อย่ามองคนที่ภายนอก เพราะความจริงอาจจะไม่เหมือนที่เห็นในโลกออนไลน์ และขอให้สัญญากับผู้การจ๋อว่าเมื่อพ้นโทษจะกลับตัวเป็นคนดี หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหารายนี้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายปี ผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท พบประวัติก่อเหตุมาแล้วกว่า 8 คดี
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของภัยสังคมรายนี้ จากการขยายผลการจับกุมในขณะนี้เราพบพยานหลักฐานและพบข้อมูลเหยื่อ และผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟซบุ๊กเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” เราจะปกปิดข้อมูลของคุณเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ ผบช.น.