MGR Online - รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย คณะ รมว.ยุติธรรม ติดตามสถานการณ์ หาช่องโหว่ “เสี่ยแป้ง” หลบหนี เตรียมพิจารณามาตรการคุมเข้มผู้ต้องขังคดีร้ายแรงนอน รพ.
จากกรณีเหตุการณ์ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “เสี่ยแป้ง” อายุ 37 ปี นักโทษต้องคดีร้ายแรงหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.66 และอยู่ระหว่างตามล่าจับกุม
วันนี้ (26 ต.ค.) นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าว ว่า วานนี้ (25 ต.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบถามประเด็นข้อสงสัยต่างๆ อาทิ ในส่วนระเบียบกรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาตให้จ้างคนนอกมาเฝ้าไข้ผู้ต้องขังที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำ และอนุญาตเฉพาะให้ญาติที่ลงทะเบียนไว้กับเรือนจำเท่านั้นเป็นกรณีป่วยหนัก หรือ กรณีแพทย์นัดรักษาแต่ได้ทำเรื่องขอเลื่อนการรักษาแล้ว และเหตุใดยังนำนักโทษออกมาโรงพยาบาลอีก
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ ยังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ นายณรงค์ หนูคง ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช , นายพูชนะ หิรัญรัตน์ ผอ.ส่วนควบคุมของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และผู้คุมรับหน้าที่เฝ้าไข้ 2 นาย รวมจำนวน 4 ราย มาปฏิบัติหน้าที่ประจำกรมราชทัณฑ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน (24-28 ต.ค.) ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อหรือไม่หรือเกิดจากความเอื้อประโยชน์ให้นักโทษหลบหนีหรือไม่ หากพบพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เพิ่มเติมก็จะดำเนินการเอาผิดด้วยทั้งวินัยและอาญา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงระยะหลังผู้ต้องขังคดีร้ายแรงจะวางแผนก่อเหตุหลบหนีจากขึ้นศาลหรือโรงพยาบาล นับตั้งแต่คดี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จนมาถึงคดี เสี่ยแป้ง ล่าสุด ด้าน นายณรงค์ เผยว่า ต้องบอกก่อนว่าภายในเรือนจำทุกแห่งมีมาตรการดูแลผู้ต้องขังอย่างเข้มงวดและเข้มแข็ง ทำให้ผู้ต้องขังพยายามวางแผนจากสถานที่อื่นซึ่งเป็นช่องว่างที่มีความเสี่ยงน้อย และการพิจารณาออกมารักษาตัวจะมีมาตรการป้องกันที่คุมเข้มอยู่แล้ว ทั้ง ใส่เครื่องพันธนาการ การเดินตรวจตราเป็นพิเศษ แต่การหลบหนีครั้งนี้อาจเกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือเอื้อประโยชน์กันหรือไม่ ส่วนจะมีการเพิ่มจำนวนผู้คุม 2 คน อาจไม่พอต่อการควบคุมดูแลผู้ต้องขัง เป็น 3-4 คน ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการใช้กุญแจไขให้นักโทษ อยู่ในรายละเอียดของสำนวนการสอบสวน