วันที่ 25 ต.ค. 66 ที่ห้องประชุมชั้น 5 เทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด เป็นประธานแถลงข่าวงานประเพณีตักบาตรประสงฆ์ทางเรือ พร้อมด้วย นายสุทร บุญสิริชูโต ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด และ ว่าที่ร้อยตรีภานุพงศ์ บรรดาศักดิ์ สมาชิกเทศบาลนครปากเกร็ด เขต 1 ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายมอญ สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยจัดงานระหว่าง วันที่ 27-28 ตุลาคม 2566
สำหรับการจัดงานประเพณีตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ เป็นประเพณีตักบาตรทางน้ำในช่วงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทย-มอญ ที่ผสมผสานวิถีชีวิตของชาวไทย และชาวมอญไว้ได้อย่างลงตัว เป็นช่วงเวลาที่ชาวพุทธ จะร่วมกันทำบุญในวันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เป็นประจำทุกปี ในอดีตชาวมอญ จะตกแต่งเรือสำหรับให้พระภิกษุ และลูกศิษย์พายเรือไปรับบิณฑบาตตามบ้านเรือน ที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เช้าตรู่เป็นต้นไป เรือแต่ละลำจะมีขนาดใหญ่ ปัจจุบันเทศบาลนครปากเกร็ด ได้สืบสานประเพณีตักบาตรทางน้ำ มีการประกวดตกแต่งเรือสวยงาม จัดสถานที่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำปากเกร็ด ท่าเรือวัดปรมัย วัดเกาะพญาเจ่ง วัดเตย ท่าเรือลพชัย ให้ประชาชนได้ใส่บาตรในเทศกาลออกพรรษา การแสดงวัฒนธรรมไทย-มอญ และการประกวดเรือรับบิณฑบาต เพื่อเป็นการส่งเสริมประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมอญ อันเก่าแก่และดีงาม อนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลัง ได้สืบสานประเพณีนี้ต่อไป
นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด กล่าวว่า วันนี้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้มีการจัดแถลงข่าว กิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ หรือตักบาตรทางน้ำของชาวไทยเชื้อสายรามัญ เนื่องจากสืบเนื่องกันมาหลายสิบปีแล้ว การจัดกิจกรรมนี้จะเริ่มช่วง แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาร่วมตักบาตรทางเรือด้วยกัน โดยจะมีพระภิกษุมารับบิณฑบาตและมีการตกแต่งเรืออย่างสวยงาม ประเพณีนี้เป็นประเพณีดั้งเดิม สืบสานวัฒนธรรมกันอย่างดีงาม จะมีการจัดงานขึ้นในวันที่ 27-28 ตุลาคม 2566 รวมถึงมีกิจกรรมอีกหลายอย่าง ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมประเพณีการตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ ที่เทศบาลนครปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ให้ลูกหลานได้สืบทอดกันต่อไป
นายสุทร บุญสิริชูโต ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด กล่าวว่า วันนี้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้จัดกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ โดยเริ่มวันที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 15.00-24.00 น. จะมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการรวมถึงความเป็นมาของการตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ จะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชาวไทย-รามัญ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางเทศบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมประเพณี วันงานจะมีการแห่ทิวธง บายศรี ตั้งแต่ท่าน้ำปากเกร็ดจนถึงถนนเส้นแจ้งวัฒนะแล้ววนกลับไปที่ท่าน้ำปากเกร็ดอีกครั้ง จะมีการแสดงนาฏดนตรี ลิเก ให้พี่น้องประชาชนได้สนุกสนานจากกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ ส่วนวันที่ 28 ตุลาคม 2566 กิจกรรมจะเริ่มช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00-10.00 น. โดยประมาณ จะมีประเพณีการตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ มีขบวนแห่เรือที่สวยงาม ทางเทศบาลได้มีการเตรียมท่าเรือสำหรับการตักบาตรไว้ถึง 6 ท่าเรือ โดยจะมีพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ในเขตเทศบาลนครปากเกร็ดและใกล้เคียงมาร่วมขบวนเรือ ในวันนั้นจะมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านสุธีร์ ทองแย้ม มาเป็นประธานในการเปิดงาน จะมีการสาธิตการทำอาหาร รวมถึงศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีและการที่ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวมอญหรือชาวรามัญจากสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่หาชมได้ยาก เหลือไม่กี่แห่งในประเทศไทย กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเนื่องจากเทศบาลนครปากเกร็ดได้รับรางวัลชนะเลิศ สิ่งแวดล้อม ยอดเยี่ยม ยั่งยืน ระดับประเทศ ได้รับถ้วยจากสมเด็จพระเทพฯ รวมถึงได้รางวัลรองชนะเลิศเมืองน่าอยู่ระดับประเทศ สิ่งสำคัญการตกแต่งภายในงานทางเราจะใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ใบตอง ก้านมะพร้าว เป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตของชาวปากเกร็ด การพัฒนาของเทศบาลนครปากเกร็ด ท่านนายกวิชัย บรรดาศักดิ์ ได้ให้แนวทางการพัฒนาไว้ 5 ย่าน ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้อยู่ใน 2 ย่าน คือย่านตลาดเก่าริมน้ำ และย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นวิถีแห่งสายน้ำ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มาเที่ยวงาน รับรองว่าได้รับความตรึงตราตรึงใจอย่างแน่นอน