MGR Online - รองอธิบดีราชทัณฑ์ ตั้ง คกก.ตรวจสอบผู้คุมประมาทเลินเล่อหรือเอื้อประโยชน์ให้ “เสี่ยแป้ง” หลบหนี ระหว่างนอน รพ. ด้าน “ดีเอสไอ” พบพิรุธหลายอย่าง ปล่อยนักโทษจ้างคนนอกมาเฝ้าไข้ แถมให้ญาติรู้ล่วงหน้าก่อนนำผู้ต้องขังออกจากเรือนจำ
วันนี้ (24 ต.ค.) นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุม นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ที่หลบหนีออกจากการควบคุมตัวใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ผู้คุมในวันเกิดเหตุ ถึงประเด็นข้อสงสัยต่างๆ อาทิ ประเด็นการนัดหมายของแพทย์ การเลื่อนนัดหมาย หรือการเปลี่ยนโซ่ตรวน เป็นต้น ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่รับหน้าที่ในการเฝ้าไข้นายเชาวลิตมีจำนวน 2 ผลัด คือ ผลัดเช้า 2 ราย และผลัดกลางวัน 2 ราย คนละ 12 ชั่วโมง ทั้งหมด 4 ราย มีการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อหรือไม่หรือเกิดจากความเอื้อประโยชน์ให้นักโทษหลบหนีหรือไม่
นายณรงค์ เผยอีกว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำฯ ต้องมีใบอนุญาตตามความเห็นของแพทย์เสนอมายัง ผบ.เรือนจำ จึงจะสามารถส่งตัวไปรักษาภายนอกเรือนจำได้ แต่ “เสี่ยแป้ง” อาจมีการวางแผนวูบหมดสตินั้นเพื่อนอน รพ. ต่อหรือไม่ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด และคณะกรรมการจะต้องไปสอบถามกับแพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้อีกด้วยว่าผู้ต้องขังมีประวัติการรักษาอย่างไร
ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า ดีเอสไอ ได้ส่งกำลังพลร่วมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยติดตามจับกุม “เสี่ยแป้ง” ส่วนประเด็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนหลบหนีครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีพิรุธหลายจุด ทั้งการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลที่ปล่อยให้นักโทษจ้างคนภายนอกมาเฝ้าไข้ ทั้งที่เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องเข้าเวรเฝ้าผู้ต้องขัง 2 คน จึงกลายเป็นประเด็นสงสัยว่าจับตาเฝ้าระวังกันอย่างไร รวมถึง การนำผู้ต้องขังหรือนักโทษรายสำคัญออกไปด้านนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเป็นความลับ ญาติและคนภายนอกจะรู้ข่าวหรือความเคลื่อนไหวล่วงหน้าไม่ได้ เพื่อป้องกันการวางแผนแหกหลบหนี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนภายนอกรับรู้ จึงมีพิรุธถึงการปฏิบัติหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะมีโทษจะร้ายแรงแน่นอน