xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.สั่งล่าตัว "เสี่ยแป้ง นาโหนด" เผ่นหนีขณะรักษาตัวใน รพ.มหาราชนครศรีฯ พร้อมตรวจสอบปมหนีออกไปล้างแค้นพยาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่งการ ผบช.ภ.8 เร่งติดตามตัว "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษคดีร้ายแรง หลบหนีขณะรักษาตัวใน รพ.มหาราชนครศรีฯ พร้อมจัดกำลังจากส่วนกลางสนับสนุน พร้อมประสานข้อมูลปมหนีออกไปล้างแค้น 2 พยาน จนท.รัฐที่ทำให้แพ้คดี

วันนี้ ( 23 ต.ค.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษคดีร้ายแรงหลายคดี หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ให้เร่งรัดติดตามตัวให้ได้โดยเร็ว โดยจัดกำลังตำรวจพื้นที่และตำรวจบช.ภ.8 ทั้งนี้ หากมีการร้องขอกำลังสนับสนุน ยุทโธปกรณ์ จากส่วนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็พร้อมสนันสนุนหากมีการร้องขอ

ส่วนประเด็นที่สันนิษฐานว่านายเชาวลิต ได้วางแผนหลบหนีไว้หลายวัน และอาจจะเตรียมไปล้างแค้นพยาน 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทำให้นายเชาวลิตแพ้คดีจนต้องติดคุก นั้น พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ทาง ตร.จะประสานงานข้อมูลในส่วนนี้กันอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี  เป็นนักโทษคดีดังหลายคดี โดยเฉพาะการปล้นตำรวจสืบสวนภาค 8 ยิงต่อสู้และชิงตัวผู้ต้องหา โดยคดีนี้ศาลพัทลุงได้ตัดสินเป็นคดีแดงที่ อ.1861/2565 จำคุก 20 ปี 6 เดือน เริ่มจองจำตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 อยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูง เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และได้ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวมาทำการรักษาทันตกรรมตามการนัดของแพทย์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566

แต่หลังจากที่ส่งตัวมาถึงนั้นพบว่าแพทย์ได้ทำการเลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวกลับ แต่ปรากฏว่า นายเชาวลิต เกิดอาการวูบหมดสติ แพทย์จึงให้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ตึก 298/2 อายุรกรรม ชั้น 6 โดยที่ขาทั้งสองข้างมีตรวนเหล็กพันธนาการ และเมื่อรักษาตัวบนหอผู้ป่วยเจ้าหน้าที่ยังมีโซ่ล่ามพันธนาการกับเตียงอีกชั้น โดยแพทย์จะให้ออกจาก รพ.ในวันที่ 22 ต.ค.เวลา 08.30 น. แต่ปรากฏว่าหลังเที่ยงคืน นายเชาวลิตได้หลบหนีจากเครื่องพันธนาการและหายตัวไป

เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่านายเชาวลิต อยู่ในระหว่างการคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำนวน 2 คนคือ นายวรินทร์ (สงวนนามสกุล) และนายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล) โดยเมื่อทั้ง 2 คนมาที่เตียงคุมตัวนักโทษรายนี้ปรากฏว่าเหลือแค่โซ่สำหรับพันธนาการยึดตรวนข้อเท้า ส่วนนักโทษได้หลบหนีไปพร้อมตรวน  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า นายเชาวลิตได้ไขกุญแจเดินออกมาจากหอผู้ป่วยลงลิฟต์จากชั้น 6 ลงไปชั้นล่างแบบลอยนวล และพบอีกว่าหลังจากทราบเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ได้แจ้งตำรวจทันทีแต่ปล่ยเวลาล่วงเลยถึง 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุจึงเข้าแจ้ง โดยมี พ.ต.ท.มนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งความ

ส่วนประวัติทางคดีนอกจากคดีที่มีการตัดสินของศาลจังหวัดพัทลุงที่ถูกจำคุก 20 ปี 6 เดือนนั้น นายเชาวลิตร่วมกับพวกได้เข้าปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิต ร่างกาย ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ตามคดีอาญาดำที่ อ.175/2565 อยู่ระหว่างพิจารณาคดี นอกจากนั้น ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี เช่น คดีสมคบค้ายาเสพติด คดีฟอกเงิน คดีร่วมกันฆ่า เช่น คดีการลอบฆ่านายอนันต์ คลังจันทร์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช

นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลอีกว่าเจ้าหน้าที่ ปปง.ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของนายเชาวลิต ที่ จ.สงขลา ที่นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาวมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากมีการเตรียมเงินไว้เป็นทุนสำหรับนายเชาวลิตลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) พัทลุง โดยระหว่างเคลื่อนไหวหาเสียง นายเชาวลิตใช้รถเบนซ์กันกระสุนเป็นพาหนะ แต่ต้องคดีร้ายแรงก่อนหลายคดีจึงต้องมาวิ่งเต้นคดีแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น