ข่าวลึกปมลับ : คดี ‘เสี่ยนุ’ ห้องเย็น แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ถึงเวลาล้างบาง ‘มาเฟีย-นายทุน’

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2566 ตอน คดี ‘เสี่ยนุ’ ห้องเย็น แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ถึงเวลาล้างบาง ‘มาเฟีย-นายทุน’



เหตุการณ์ นายอนุสรณ์ ดอนสุวรรณ หรือเสี่ยนุ เจ้าของกิจการห้องเย็นในอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนรัวยิงนายศราวุธ ประจง หัวด่านกักสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์ 5 นัดจนเสียชีวิตบริเวณอาคารห้องเย็น เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ถูกตรวจสอบการนำเข้าเนื้อสุกร ซึ่งไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้

การก่อเหตุครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกฉกรรจ์ต่อตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติติหน้าที่อีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเกิดเหตุพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว ถูกลูกน้องของกำนันนก ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จึงเป็นคำถามที่สังคมไทยกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เหตุใดถึงมีการก่อเหตุประทุษร้ายเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงเวลาติดๆกันได้ขนาดนี้

ในกรณีของเสี่ยห้องเย็นนั้นร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชากรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายอนุสรณ์ ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินธุรกิจห้องเย็นดังกล่าวน่าจะมีผู้มีอิทธิพลและกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องธุรกิจที่ไม่ถูกกฎหมายทั่วประเทศให้เห็นผล 100% ภายในสิ้นเดือนตุลาคม

พร้อมกันนี้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปตรวจสอบกรณีที่มีการกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงในกรมปศุสัตว์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนด้วย

กรณีการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เผิดกฎหมายถูกเชื่อมโยงกับบรรดาผู้ประกอบการห้องเย็นมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปัญหาที่หน่วยงานภาครัฐพยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่องแต่ไม่สามารถทำได้สำเร็จเด็ดขาดเสียที

ภายหลังพบการกระทำผิดกฎหมายหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเดือนเมษายน 2565 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตรวจสอบพบห้องเย็นขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการเก็บรักษาซากสัตว์ที่นำเข้ามาจากประเทศในทวีปอเมริกาใต้อย่างผิดกฎหมายประมาณ 4 ล้านกิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 170 ล้านบาท

โดยหากสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้สามารถรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่และสามารถนำไปจำหน่ายในท้องตลาดได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 250 ล้านบาทเลยทีเดียว

ไม่ต่างกับกรณีที่ขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กรมศุลกากร และดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบตู้สินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จำนวน 161 ตู้ โดยพบว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์แช่แข็งที่ไม่ผ่านการตรวจโรค ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 460 ล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบขยายผลในกรณีนี้เบื้องต้นดีเอสไอพบว่ามีบริษัทนำเข้า 10 แห่งที่มีการโอนเงินสั่งซื้อหมูจำนวนดังกล่าว

เมื่อมองจากภาพรวมที่ผ่านมาแล้ว ต้องยอมรับว่าหน่วยงานภาครัฐทำงานในเชิงปราบปรามจับกุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในแง่ของการขยายผลเพื่อตรวจสอบและล้างบางขบวนการเหล่านี้ให้หมดไปยังไม่มีความชัดเจนมากนัก

โดยเฉพาะการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและนายทุนที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ซึ่งทางการข่าวมีข้อมูลว่า ขบวนมาเฟียค้าหมูเถื่อน มีสองนักการเมืองภาคกลาง อยู่เบื้องหลัง

การจะทำงานใหญ่นี้ให้ประสบความสำเร็จ หน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่จะต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และจะต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่สุจริตมาเสียชีวิตในระหว่างการทำหน้าที่อีก

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1