ผบ.ตร.แถลงผลปฏิบัติการ “Gun Clearance Operation” ระดมกวาดล้างอาวุธปืนผิดกฎหมายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 1,789 กระบอก กระสุน 75,973 นัด ปิดบัญชีโซเชียลฯ เอี่ยวทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 291 บัญชี
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนผิดกฎหมายทั่วประเทศ “Gun clearance operation” โดยใช้กองกำลังจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท., กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสผู้กระทำความผิดจนนำมาสู่การขอศาลอนุมัติออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย ดัดแปลง และซื้อขายอาวุธปืน 3,224 จุด
สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 1,593 คดี มีผู้ต้องหา 1,585 คน ตรวจยึดอาวุธปืน และเครื่องกระสุนผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนไม่มีทะเบียน , แบลงก์กัน และบีบีกันจำนวน 1,789 กระบอก ในจำนวนนี้ มีแบลงก์กัน 528 กระบอก และบีบีกัน 202 กระบอก 2.อาวุธปืนมีทะเบียน ซึ่งเป็นของบุคคลอื่น หรือปืนผิดมือ จำนวน 219 กระบอก และ 3.เครื่องกระสุน 75,973 นัด
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ที่กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ประกอบด้วย Facebook 79 บัญชี, TikTok 14 บัญชี, X (Twitter) 148 บัญชี, YouTube 26 ช่อง และ Instagram 14 บัญชี รวม 291 รายการ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้มึการระดมกวาดล้างอาวุธปืนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าเป็นภัยสังคมที่ต้องกวาดล้าง โดยจากสถิติการก่ออาชญากรรมพบว่าส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะใช้ปืนผิดกฎหมาย และแบลงก์กัน มีส่วนน้อยที่จะใช้ปืนถูกกฎหมายก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการแอปพลิเคชันจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อช่วยตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการจำหน่าย และส่งอาวุธปืนผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบจากต้นทาง จึงทำให้การจำหน่าย และส่งอาวุธปืนผิดกฎหมายทำได้โดยง่าย
สำหรับปฎิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เยาวชนอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้เรียกประชุมคณะทำงาน และได้มอบหมายงานให้ พล.ต.ท.ธนา ให้ดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังทั่วประเทศในการกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงระหว่างวันที่ 9 ถึง 11 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายหลักคือ การทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน, อาวุธสงคราม, เครื่องกระสุน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางออฟไลน์ และออนไลน์ รวมทั้งปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภท ที่มีการลักลอบซื้อขาย, ดัดแปลง, แก้ไข อาวุธปืนผิดกฎหมาย
อีกทั้งยังเชื่อว่าปฎิบัติการครั้งนี้ จะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรม และการกระทำผิดกฏหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนลดลง ซึ่งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน, นักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติ อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยจะเดินหน้ากวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และอาชญากรรม สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง