ปิดฉากเรือดำน้ำไทย รัฐบาลเยอรมัน เมินข้อเสนอนายกฯ เศรษฐา

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ปิดฉากเรือดำน้ำไทย รัฐบาลเยอรมัน เมินข้อเสนอนายกฯ เศรษฐา



มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ที่สั่งต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ดูเหมือนจะเข้าสู่การเคาท์ดาวน์ นับถอยหลังที่ผู้เกี่ยวข้องต้องตัดสินใจว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร เมื่อมีข่าวล่าสุดว่า รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธข้อเสนอ ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่พยายามเจรจาต่อรองขอให้บริษัท MTU ของเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะติดตั้งในเรือดำน้ำไทยที่ต่อในสาธารณรัฐประชาชนจีน ยอมผ่อนปรนที่จะขายเครื่องยนต์ดังกล่าว ให้แก่บริษัทจีนซึ่งเป็นคู่สัญญาของกองทัพเรือไทย

การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนายกฯ เศรษฐา บินไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย. 2566 ซึ่งในครั้งนั้น ผู้นำจากหลายประเทศ เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
ก่อนหน้านี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาเรือดำน้ำถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก รัฐมนตรีสุทิน กล่าวในทำนองที่ว่า พอมีแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปได้ โดยที่ยังไม่มีการแย้มว่า แนวทางที่ว่าคืออะไร

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก แต่เป็นถ้อยคำที่ทำให้กองทัพเรือสะดุ้ง เมื่อรัฐมนตรีสุทิน กล่าวในทำนองว่า อาจจะเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นปุ๋ยเพื่อช่วยเกษตรกรไทย

อย่างไรก็ตาม เรื่องเรือดำน้ำก็ดูเหมือนจะเงียบไปชั่วขณะ กระทั่งบิ๊กจ๊อด พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนพ้นตำแหน่งว่า ปีที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบข้อมูลที่จีนนำเสนอ และส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งการตรวจสอบเครื่องยนต์ของจีนที่เป็นเครื่องกำเนิดเครื่องไฟฟ้าของเรือดำน้ำ สามารถใช้ทดแทนและเทียบเคียงเครื่องยนต์ของเยอรมนีได้ โดยไม่ทำให้เกิดผลเสียในเรื่องของความปลอดภัย และไม่ทำให้เสียคุณค่าทางยุทธการ

ส่วนเรื่องการรับประกันจากเดิมตามข้อตกลงเดิมเป็นการรับประกันชิ้นส่วนของเรือดำน้ำภายหลังส่งมอบเป็นระยะเวลา 2 ปี จะสนับสนุนในการรับประกันเครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมอะไหล่รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเครื่องยนต์ที่ประเทศไทย รวมถึงการซ่อมบำรุงในช่วงของ 8 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาในการอัพเกรดเรือดำน้ำตามช่วงระยะเวลา

ความจริงกองทัพเรือเคยเจรจากับทางการเยอรมนี ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่สามารถขายเครื่องยนต์ตามกฎของการห้ามการส่งออกในกรณีที่สามารถนำไปใช้เป็นอาวุธสงครามให้กับทางการจีนได้

บิ๊กจ๊อด ยังระบุอีกว่าหากจะเปลี่ยนเป็นโครงการอื่น ซึ่งก็ต้องไปเริ่มพิจารณารายละเอียดกันใหม่ หรือการเริ่มต้นโครงการใหม่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่อง งบประมาณ เพราะการจัดหาเรือดำน้ำเป็นลักษณะจัดหาแบบแพคเกจ ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง การตั้งโครงการเรือดำน้ำเมื่อ 6 ปีที่แล้ว จำนวน 2 ลำ มูลค่าโครงการ 36,000 ล้านบาท ปัจจุบันราคาน่าจะสูงขึ้นกว่าในอดีต

ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเช่นไร สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญก็คือ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง หากมีการปฏิบัติที่ผิดจากเงื่อนไข ใน TOR กรรมการผู้เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบโดยตรง ในเมื่อเงื่อนไข ที่ระบุใน TOR เขียนชัดเจนว่า เครื่องยนต์ที่ใช้ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรือดำน้ำต้องเป็นเครื่องยนต์ MTU ของเยอรมัน

หากจะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น ก็จะต้องมีการแก้ไข TOR

จริงอยู่ การแก้ไข TOR สามารถกระทำได้ แต่ต้องภายใต้ หลักการที่ว่า ทางราชการได้ประโยชน์ ในกรณีนี้ ใครจะเป็นผู้ยืนยันว่าหากแก้ไขสัญญาแล้วทางราชการได้ประโยชน์จริง ไม่ใช่เป็นการแก้ไขสัญญาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญา

และหากดูถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.คนใหม่ ในวันแรกที่รับตำแหน่ง เมื่อถูกถามว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะใช้เครื่องยนต์ของจีน หรือ พร้อมที่จะให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบขอไปศึกษาและขอให้เป็นไปตามที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ดำเนินการ

และนั่นเท่ากับว่า เผือกร้อนถูกส่งต่อให้อยู่ในมือของบิ๊กดุงไปโดยปริยาย

เมื่อถูกถามว่า มีแผนรองรับหรือไม่ กรณีที่รัฐบาลตัดสินใจเรือดำน้ำไปอีกทางหนึ่ง พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลหรือกองทัพเรือตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของกองทัพเรือและประเทศชาติจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด

ในท้ายที่สุดของที่สุดก็คือ ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า เรือดำน้ำเจ้าปัญหาจะเดินหน้าต่อไป ด้วยวิธีการอย่างไรก็ว่ามา หรือจะปล่อยให้อับปางลง ทั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จ และ ยอมให้จีนขายเรือลำที่เคยเตรียมไว้ให้กองทัพเรือไทยให้กับกองทัพเรือชาติอื่น

ทั้งหมดนี้ คือการพิสูจน์ฝีมือการบริหารของนายสุทิน รัฐมนตรีกลาโหม ภายใต้การนำของนายกฯ เศรษฐา ขณะที่ พล.ร.อ. อะดุง ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ เป็นเพียงเฟืองตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งในมหากาพย์เรือดำน้ำ ที่ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช.

-------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1