สาวร้านยางร้อง บช.ก.ช่วยตามลากคอโจรออนไลน์อ้างเป็นทนาย-ตร.สอท. หลอกช่วยคดีถูกโกง จนสูญเงินนับล้านบาท ซ้ำถูกโทรขู่จับลูกตัดแขนขา เครียดกินยาฆ่าตัวตาย เดชะบุญสามีพาส่ง รพ.ช่วยทัน
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พา น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี พนักงานร้านจำหน่ายยางรถยนตร์ย่านรัชดาภิเษก เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.เพื่อ ดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกช่วยคดีจนสูญเงิน 1.4 ล้านบาท
น.ส.เเอน กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาพบเพจเฟซบุ๊ก โฆษณารับสมัครพนักงานบรรจุหีบห่อสินค้าล่วงเวลาอ้างรายได้ดี จึงลองสมัครไป 100 บาท และได้เงินคืนมา 120 บาท จากนั้นทางเพจก็บอกถ้าอยากได้เงินมากๆ ก็ทำรายการและส่งเงินมาเพิ่ม ตนเองเห็นว่าได้เงินจริงก็ลงทุนไปเรื่อยๆ เพราะต้องการหาเงินมาดูแลครอบครัว จนกระทั่งสูญเงินไป 2.4 แสนบาท ทางเพจดังกล่าวได้ปิดตัวลง จากนั้นได้ไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เมื่อปลายเดือน ก.ค. แต่ปรากฎว่าต้นเดือน ส.ค. ก็ได้มีผู้หญิงอ้างเป็นทนายความโทรศัพท์ติดต่อจะมาช่วยตามเงิน 2.4 แสนคืนให้ จากนั้นให้เบอร์ติดต่อชายอีกคนอ้างเป็น พ.ต.ท. สังกัด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
น.ส.เเอน กล่าวต่อว่า เมื่อติดต่อไปบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สอท.ก็ขอข้อมูลส่วนตัว หมายเลขบัญชี ก่อนจะอ้างว่าเงิน 2.4 แสนบาทที่ถูกโกงไปอยู่ในเวปพนันออนไลน์ จากนั้นก็ให้ตนกดลิ๊งก์เข้าไปเล่นพนัน จะได้ตามจับเอาเงินคืนมาให้ ตนเองหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปอีก 3 แสน และเอาทรัพย์สินไปขายเพื่อเอาเงินมาลงทุน ปรากฏว่ามีเงินถูกดูดออกไปจากบัญชีอีกหลายแสนบาทรวมแล้วประมาณ 1.4 ล้านบาท
"เมื่อสอบถามกลับก็ถูกข่มขู่ว่าหากแจ้งความตำรวจจะจับลูกชายวัย 7 ขวบตัดแขนขาส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดความเครียดกินยาฆ่าตัวตาย แต่สามีมาพบหามส่ง รพ.ภูมิพล ช่วยชีวิตไว้ทันจึงต้องเข้ามาขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ พามาแจ้งความตำรวจ บช.ก.ช่วยติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีให้ด้วย" น.ส.แอน กล่าว
เบื้องพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
