รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพุธที่ 20 กันยายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดปมเรือสุโขทัยอับปางซ้ำสอง พิรุธอุ้มบริษัทนามสกุลดังถอนหมุดข่าว
จากกรณีการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแผนการกู้เรือสุโขทัยกลางรัฐสภาในวันที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และในวันนั้นเองที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายของกระทรวงกลาโหมในภาพรวม
ก่อนจะโยงเข้าหาแผนการกู้เรือสุโขทัยของกองทัพเรือ พร้อมทั้งนำเอกสารหลักฐานมาแสดง โดยตั้งข้อสังเกตว่า
หนึ่งในบริษัทที่มายื่นซองเสนอราคาในการประมูลเป็นบริษัทของผู้มีนามสกุลเดียวกับ “บิ๊กออฟ” พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดหรือผู้บัญชาการกองทัพไทยคนใหม่ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ซึ่งบริษัทดังกล่าวเพิ่งจัดตั้งขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อีกทั้งวันที่ยื่นเอกสารถึง พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. เสนอตัวว่า มีความพร้อมที่จะกู้เรือ คือวันที่ 2 มกราคม ขณะที่วันจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท คือวันที่ 9 มกราคม
หรือพูดภาษาชาวบ้านคือ “ยื่นก่อนจดทะเบียนตามหลัง” อันส่อให้เห็นว่ามีลักษณะเป็น “บริษัทเฉพาะกิจ” ที่เตรียมมารับงานนี้โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ว่าที่ ผบ.ทร. คนใหม่ ในฐานะผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เจ้าของโครงการได้ลงนามยกเลิกการประมูลดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา และโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุเพลิน ว่าที่รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ ได้ออกมาแถลงว่า
การยกเลิกการประมูลเนื่องจากทั้ง 6 บริษัทที่ยื่นซองเสนอราคา เอกสารไม่ครบถ้วน จึงถูกคณะกรรมการคัดเลือกตีตกไปทุกบริษัท และกองทัพเรือเตรียมที่จะเปิดประมูลใหม่ โดยใช้เงื่อนไขหรือ TOR เดิม แล้วให้ทุกบริษัทมายื่นเสนอราคาอีกครั้ง
ทั้งนี้หากย้อนไปดูความเป็นมาของเรื่องดังกล่าว จะพบว่า กองทัพเรือโดยกองเรือยุทธการได้มอบหมายให้กรมอู่ทหารเรือเป็นหน่วยเทคนิค ในการกำหนดแนวทางการกู้เรือ และกรมอู่ทหารเรือ ก็ได้เชิญบริษัทต่างๆ เข้ามารับฟังการบรรยายสรุปและแจ้งให้ผู้ที่มีความสนใจนำข้อมูลในเบื้องต้นที่รับทราบจากกรมอู่ทหารเรือ กลับไปพิจารณาจัดทำแนวทางการกู้เรือ เพื่อนำมาเสนอให้กรมอู่ทหารเรือประเมินภาพรวมเพื่อให้ได้ข้อสรุปถึงวิธีการกู้เรือซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพื่อจัดทำ TOR อีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นกรมอู่ทหารเรือ จึงได้ทำการสอบราคากลางจาก 4 บริษัท จนได้ตัวเลขงบประมาณ 200 ล้านบาท ในการกู้เรือสุโขทัย ต่อมาในวันที่ 4 สิงหาคม คณะกรรมการคัดเลือกที่มี พล.ร.ต.อภิรมย์ เงินบำรุง รองเจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นประธาน ได้ลงนามในหนังสือเชิญชวนไปยังบริษัทต่างๆ ให้มายื่นเสนอราคา
โดยเงื่อนไขสำคัญใน TOR ก็คือ การกู้เรือจะต้องดำเนินการทั้งลำ ห้ามมิให้มีการตัดแยกชิ้นส่วน หลังกู้เรือแล้วจะต้องลำเลียงไปยังอู่ราชนาวีมหิดล ที่สัตหีบ เพื่อส่งมอบให้แก่กองทัพเรือ
ในการนี้ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นับจากวันลงนามในสัญญา และกองทัพเรือจะไม่มีการจ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้ที่ได้งาน แต่จะชำระเพียงครั้งเดียว จำนวน 200 ล้านบาท หลังการส่งมอบเรือ
ทั้งนี้ในเอกสารเชิญชวนระบุว่า เปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะยื่นคัดค้านทีโออาร์ หรือขอแก้ไข TOR ส่งเอกสารข้อคัดค้าน ในวันที่ 15 สิงหาคม จากนั้นในวันที่ 18 สิงหาคม คณะกรรมการจะเชิญทุกบริษัทมารับฟังข้อสรุปอีกครั้งหนึ่งว่า จะมีการแก้ไข TOR ตามที่มีผู้เสนอหรือไม่อย่างไร
จากนั้นในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม คณะกรรมการจะรับซองการเสนอราคาของผู้ที่มีความประสงค์จะประมูลงานดังกล่าว โดยกำหนดระยะเวลารับซอง ตั้งแต่ 08:30 น. ถึงเวลา 16.30 น.
แต่ข้อมูลที่ สส. พรรคก้าวไกลนำมาเปิดเผยก็คือ บริษัทที่มีนามสกุลดังมายื่นซองเสนอราคา ในวันที่ 28 สิงหาคม และเป็นการยื่นรายสุดท้าย แต่คณะกรรมการก็รับซองดังกล่าวไว้ จนทำให้ สส. พรรคก้าวไกล ออกมาเตือนว่า อาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ระวังจะมีความผิดตามมาตรา 157
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ และเป็นประเด็นคำถามที่สำคัญก็คือ มีการยื่นซองเกินจากกำหนดเวลาจริงหรือไม่ แม้จะมีการอ้างว่า บริษัทนามสกุลดังที่มายื่นซองเป็นรายสุดท้าย “ลงวันที่ผิด” แต่กรณีดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดที่จะแสดงให้เห็นวันเวลาในการเข้ามายื่นซอง
และถึงแม้ว่าบริษัทนามสกุลดัง อาจลงวันที่ผิด ตามที่กล่าวอ้างจริงก็ตาม แต่เวลาที่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิดจะชี้ให้เห็นว่า เป็นการยื่นซอง หลังเวลา 16.30 น. ซึ่งเลยกำหนดเวลารับซองแล้วหรือไม่
งานนี้หากคิดจะอ้างกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานว่า บริษัทลงวันที่ผิด แต่กรรมการรับซองก็จะไม่รอดความผิด กรณีเอื้อประโยชน์ให้เอกชนด้วยการรับซองหลังจากเลยเวลาที่กำหนดแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ใครจะยืนยันได้ว่า ซองราคาของแต่ละบริษัทจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่มีการรั่วไหลให้รู้ว่าแต่ละบริษัท เสนอราคาประมูลเท่าไหร่ จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่สังคมจะคล้อยตามการชี้นำของพรรคก้าวไกล ในสภาที่ว่า โครงการนี้มีเงื่อนงำ ส่อไปในทางที่จะล็อคผลให้แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง
และในท้ายที่สุด หากมีการยื่นซองประมูลใหม่ โดยที่ไม่มีการแก้ไข TOR และเชิญบริษัทเดิมทั้ง 6 ราย ให้มาเสนอราคา และหากว่าผู้ชนะการประมูลบังเอิญเป็นบริษัทนามสกุลดังที่ถูกพาดพิง
ผลลัพธ์ในเรื่องนี้ก็จะไม่ต่างอะไรกับ “ใบเสร็จ” ที่ยืนยันว่าการจับพิรุธของพรรคก้าวไกลเป็นความจริงทุกประการ และผู้ที่จะเปรอะเปื้อนแบบเต็มๆ จากน้ำมือของคนวงในที่ปล่อยของให้นักการเมือง ก็คือ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่นั่นเอง
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1