กู้ชีพนครรังสิตเปิดศึกยิงปืน แย่งคนเจ็บกับอาสาร่วมกตัญญูเข้ามอบตัวแล้ว อ้างป้องกันตัว สั่งดำเนินคดี พ.ร.บ. อาวุธปืน ก่อนเตรียมเรียกสองฝ่ายหารือร่วมแก้ปัญหา
จากรณี สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รุดตรวจสอบเหตุกู้ภัยเปิดศึกแย่งคนเจ็บมีปากเสียงท้าต่อยจนเรื่องบานปลายชักยิงกันสนั่นลั่นถนนปากซอยรังสิต-นครนายก 26 ถนนเลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุพบรถตู้กู้ภัย สีขาว ทะเบียน ฮง 1946 กรุงเทพมหานคร เปิดไฟวาบๆ เป็นรถของอาสากู้ชีพนครรังสิตจุดตลาดน้ำรังสิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายศุภณัฐ สุวรรณฉิม เป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดคูคต ถูกปลอกกระสุนปืนกระเด็นใส่ที่บริเวณแขนซ้าย ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปลอกอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 4 กันยายน 2566 ที่ห้องสืบสวน สภ.ประน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี นายจตุพร อ่ำจิต หรือต้อม อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่นครกู้ชีพนครรังสิต จุดตลาดน้ำ ได้เดินเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
นายจตุพร หรือต้อม กล่าวว่า เหตุการณ์ในขนาดนั้นตนเองเห็นว่ามันปลอดภัยแล้วเขาเข้าข้างหน้า6 คนข้างหลังอีก 3 คน เป็นพี่พี่จะทำยังไง เขาลงมาหาเรื่องด่าหยาบคายมีปัญหาอะไรตัวๆกับกูไหม คำพูดนี้ตนเองมีพยานบุคคล ตนบอกคุยกันดีๆกูนครรังสิตทำถูกต้องจะอะไรกันหนักหนาช่วงที่เดินหันหลังกลับก็เข้ามากระชากคอเสื้อนาทีนั้นถ้าเขามีมีดถูกแทงผมก็ต้องป้องกันตัวก่อนชักปืนยิงก่อนจะรอมาแทงก่อนหรือพวกเขาก็ชะงักแต่มีคนที่ถูกปลอกกระสุนปืนกระเด็นโดนแขนเข้ามากระชากจนกางเกงขาด แล้วก็เดินหนีเข้าป่าไปเพราะคิดว่าถ้าอยู่เดี่ยวเรื่องยาวแน่
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นเริ่มต้นตนเองเป็นอาสาของนครรังสิตวิ่งงานตั้งแต่ปี 51 ในรถมีวิทยุโมบาย5 ตัวฟังหลายช่องและได้ยินแจ้งเหตุว่ามีรถชนหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรขนาดนั้นตนเองอยู่ไทเทยีนจึงเปิดไฟว๊าบๆวิ่งมาจะแจ้งกู้ชีพศูนย์ปทุมธานีแต่เขาติดเคสโดยรถทุกคันจะเข้าไปรับคนป่วยจะต้องแจ้งศูนย์ปทุมธานีเท่านั้นไม่ใช่ไปรับโดยภาระการถ้าคนป่วยเป็นไรตายศูนย์กู้ชีพก็จะรับผิดชอบให้ตนเองแจ้งไปทางกู้ชีพแต่เขาใช้ความถี่ไม่สามารถรับสายได้ และตนเองขับรถผ่านจุดเกิดเหตุพบว่ามีอุบัติเหตุ รถเก๋งชนท้ายรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย ซึ่งตนเองก็จะแจ้งเข้าศูนย์กู้ชีพปทุมธานี เพื่อขอคำสั่งในการช่วยเหลือคนเจ็บ ซึ่งระหว่างนั้นทางช่องมีการประสานเหตุที่อื่นอยู่จึงรอ โดยทางแฟนของตนได้ลงไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับคนเจ็บก่อน ก่อนที่ช่องความถี่จะว่าง
..
จึงได้แจ้งทางศูนย์ไปและเป็นจังหวะที่มีรถของทางอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ขับรถมาถึงแล้วขับปาดเข้ามาที่บริเวณหน้ารถของตน ก่อนที่จะลงมาโวยวาย ด่าคำหยาบคาย และมีการโต้เถียงกัน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้าม พร้อมกับบอกว่า ให้ช่วยเหลือคนเจ็บก่อน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ตนเองจึงได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้หญิงขึ้นรถมา ก่อนที่จะเหลือคนเจ็บที่เป็นผู้ชายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูไป แต่หลังจากที่ตนเองขับรถพาคนเจ็บกำลังจะไปส่งที่โรงพยาบาลขับมาถึงบริเวณหน้าซอยรังสิต-นครนายก 26 รถของอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูวิ่งมา 2 คัน มาปิดถนนทั้งสองฝั่งไม่ให้ไป ก่อนที่จะมีรถอีกคันที่ตนเองแบ่งคนเจ็บให้ขับมาปิดท้ายอีกครั้ง
โดยทั้งหมดเดินลงจากรถปรี่เข้ามาหาตนด้านหน้า 6 คน ด้านหลังอีก 3 คน ตนเองจึงได้หยิบปืนเอามาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ เมื่อเปิดประตูลงมาพวกเขาก็เข้ามาโวยวายด่าทอตนต่างๆ นานา ด้วยคำหยาบคาย ก่อนที่จะมีอาสาของร่วมกตัญญูมากระชากคอเสื้อผม ด้วยความกลัวเพราะคนเขามากันเยอะตนเองจึงได้เอาปืนออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วยิงลงพื้นไป 1 นัด เพื่อป้องกันตัวเอง ก่อนที่พวกเขาจะแตกฮือออกไป แต่มี 1 คนเข้ามาแย่งปืนกระชากกางเกงจนขาด ก่อนที่ตนเองจะเดินหลบเข้าไปในซอย เพราะว่าถ้ายังอยู่อาจจะมีอะไรอย่างอื่นอีกแน่ เพราะคนเขามาเยอะกว่า ก่อนที่จะเดินทางเข้ามอบตัวในวันนี้
นายจตุพร อ้างว่าที่พกปืนเพราะกลัวไม่ปลอดภัยเพราะตนมีลูกเมียที่เดินทางไปต่างจังหวัดอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้อง
ทางด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบปืนพบว่า ปืนนั้นมีทะเบียนถูกต้อง แต่เรื่องการพกพา และการยิงปืนในที่สาธารณะนั้นถือว่าผิด ซึ่งโดยทางนายต้อม ได้เดินทางมาเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แล้วส่วนเรื่องทางคดีก็ต้องมาว่ากันในทางด้านหลักฐานว่า ใครผิดใครถูกก็ต้องว่ากันไป ส่วนกรณีในเรื่องการรับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ป่วยนั้น ก็จะต้องมีการหารือหาทางออกร่วมกัน และจะต้องมีการประชุม
โดยจะเรียกทั้งสองฝ่ายเข้ามาหารือหาทางออกกัน โดยการทำงานนั้นตนว่ามันต้องมีการกระทบกระทั่งกันอยู่แล้ว แต่ที่นี้ในการบริหารจัดการจะทำอย่างไร ให้ถูกต้องซึ่งหลังจากที่ดำเนินคดีในส่วนนี้ แล้วก็จะเรียกทุกฝ่ายมาหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกต่อไป และในเบื้องต้นได้ทำการแจ้งข้อหา เกี่ยวกับ พ.ร.บ. อาวุธปืนไว้ก่อนแล้วจะได้ทำการสอบสวนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป