xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “แอร์ราเชน” ตุ๋นซื้อมือถือเหยื่อทั่วกรุง เสียหายนับล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับแอร์ราเชน” นักต้มตุ๋น หลอกนัดเจอเหยื่อซื้อขายมือถือ ก่อนส่งรูปโอนสลิปปลอม มีผู้เสียหายทั่วกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 100 ราย มูลค่านับล้านบาท

วันนี้ (1 ก.ย.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 112 ติดตามจับกุมตัวนายวิมลสรากร เกตุวันธรรม หรือ นายวัฒนชัย จิตรีเหิม (ชื่อเก่า) ชื่อเล่น แอร์ ชื่อแฝง ราเชน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 581/2 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหา โดยกล่าวว่า ลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบาย ตามหมายจับ 4 หมายจับ ดังนี้ 1. หมายจับศาลอาญาที่ จ.2618/2566 ลงวันที่ 18 ส.ค. 66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พื้นที่ สน.พญาไท 2. หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ จ.398/2566 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 66 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ พื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3. หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ จ.39/2566 ลงวันที่ 25 ม.ค. 66 ข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบาย พื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา และ 4. หมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่จ.76/2566 ลงวันที่ 5 พ.ค. 66 ข้อหาตัวการในข้อหาถ้าการกระทำความผิดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะหรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพี่อประโยชน์สาธารณะ พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ ทั้งนี้พบประวัติต้องโทษคดีในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบันอีกกว่า 11 คดี ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง สน.บุคคโล สน.สำราญราษฎร์ สน.พญาไท สน.บางกอกน้อย สน.โชคชัย สน.บางยี่เรือ สภ.คลองหลวง สภ.ประตูน้ำจุฬา และ สภ.สำโรงเหนือ

สืบเนื่องจากพฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหาได้ตระเวนหลอกซื้อโทรศัพท์มือถือ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อทั่วกรุงเทพฯไม่ต่ำกว่า 100 ราย ความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยมีแผนประทุษกรรมสุดแยบยล เริ่มต้นจากเจ้าตัวจะแฝงตัวอยู่ในเฟซบุ๊กตามกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์ จากนั้นจะหาเหยื่อที่โพสขายโทรศัพท์ จากนั้นจะเข้าไปสนทนาติดต่อขอซื้อโดยวิธีการ "ชนมือ" หรือการนัดพบเพื่อซื้อขายนั้นเอง เจ้าตัวจะเลือกเหยื่อที่อยู่ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ ซึ่งไม่ไกลจากที่พัก จากนั้นเมื่อคนร้ายได้นัดหมายเจอกันกับเหยื่อ และถึงขั้นตอนการจ่ายเงินซื้อโทรศัพท์จากเหยื่อ คนร้ายจะทำทีกดโทรศัพท์โอนเงิน แต่จะโอนในรูปแบบโอนล่วงหน้า ซึ่งวิธีนี้แนบเนียนเพราะหน้าที่ทำรายการจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการโอนเงินจริงๆ และแม้จะไม่มีเงินในบัญชีก็สามารถกดโอนล่วงหน้าเช่นนี้ได้ โดยไคล์แม็กส์จะอยู่ที่เมื่อคนร้ายกดโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จแล้ว แอปพลิเคชันธนาคารจะขึ้นว่าการโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จ คนร้ายจะนำภาพสลิปโอนเงินซึ่งเป็นสลิปปลอมโชว์ให้เหยื่อดู เสมือนมีการโอนเงินให้เหยื่อแล้วจริงๆ ซึ่งเมื่อเหยื่อเห็นว่า คนร้ายได้โอนเงินให้แล้วก็ส่งมอบโทรศัพท์ให้ไปเหมือนเป็นการปิดการขายแล้วแยกย้ายกันไป ซึ่งกว่าเหยื่อจะรู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อได้ตรวจสอบเงินในบัญชีของตัวเองโดยละเอียดเท่านั้น โดยในปัจจุบันเหล่าผู้เสียหายผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนจนตอนนี้ไม่ต่ำกว่า 100 รายแล้ว

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบนครบาล และนักเรียนสืบรุ่น 112 ติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ แต่ความฉลาดของผู้ต้องหาไม่เหมือนอาชญากรทั่วไป เพราะเคยถูกกลุ่มผู้เสียหายไล่ล่า และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมาแล้ว 1 ครั้ง ทำให้เจ้าตัวมีทักษะการหลบหนี พล.ต.ต.ธีรเดช จึงใช้แผน “ล่อเข้” สั่งการชุดสืบสวนกว่า 10 ราย แฝงตัวเป็นพ่อค้าขายโทรศัพท์ในเฟซบุ๊ก กระทั่งคนร้ายได้ติดต่อมาซื้อโทรศัพท์จากทีมสืบสวน โดยมีการนัดหมายและสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่ บริเวณร้านอาหารตามสั่งหน้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้เก่า) แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.40 น.

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองเริ่มเดินสายโจรตั้งแต่ที่พ่อของตนเองเสียชีวิตและถูกบรรดาญาติพี่น้อง เอาเงินประกันไปหมด โดยแรกเริ่มได้ไอเดียจากการลองโอนเงินแบบ โอนล่วงหน้า จึงเกิดไอเดียในการหลอกลวงคนอื่น โดยเงินที่ได้มาจะนำไปเล่นการพนัน และนำไปเปย์ให้กับสาวไซด์ไลน์ และยอมรับตนเองก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายปีแล้ว ในครั้งแรกๆการแสดงไม่เนียนถูกจับได้ก็ถูกไล่กระทืบ บางครั้งถึงกับต้องกราบเท้าเจ้าของโทรศัพท์เพื่อให้รอดจากสถานการณ์ ซึ่งสั่งสมมาเป็นประสบการณ์จนปัจจุบัน ซึ่งมั่นใจว่าทำได้อย่างแนบเนียน ซึ่งตนเองพยายามใช้ชีวิตอย่างแนบเนียนมาตลอดไม่คิดว่าจะมาถูกตำรวจจับได้จากการล่อซื้อแบบนี้ หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา รวมไปถึงไม่ได้คล้อยตามน้ำตาจรเข้ของผู้ต้องหารายนี้ เพราะพยานหลักฐานจากฝั่งผู้เสียหายจำนวนมากนั้นมัดแน่น และที่สุดอันตราย คือ แผนประทุษกรรมการที่คนร้ายเลือกเปิดเผยใบหน้ามาเฟสทูเฟสในการซื้อขาย การตีเนียนกดโทรศัพท์โอนเงินต่อหน้าเหยื่อให้เห็นหน้าแอ็พพลิเคชั่นธนาคารและหน้าการโอนเงินล่วงหน้าสำเร็จ บวกกับลูกล้อลูกชนแต่งตัวเป็นพนักงานทำทีเร่งรีบ ล้วนเป็นแผนการของคนร้ายรายนี้ทั้งสิ้น ทำเอาเหยื่อเกือบทุกราย ถูกเชือดแบบไม่รู้ตัว และความล้ำลึกของแผนการคนร้ายรายนี้ยังไม่จบสิ้น เพราะเมื่อเหยื่อเดินทางไปแจ้งความ เหยื่อจะมักแจ้งความเพียงว่าตนเองถูก ฉ้อโกง ซึ่งแท้จริงเป็นพฤติการณ์เข้าข่าย ลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กลอุบาย ผมไม่ต้องการให้คนร้ายรายนี้เพ่นพ่านในสังคม ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ หรือที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งมาได้ที่ บก.สส.บช.น. ทางโทรศัพท์หรือช่องทางเฟซบุ๊กเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.น.


กำลังโหลดความคิดเห็น