รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่น อสส.เร่งรัดคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เคยถูกกองทัพบกแจ้งความ เเละ อดีต อสส.เห็นควรสั่งฟ้องตั้งเเต่ ปี 58
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายทศพล พรหมเกตุ รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้เร่งรัดคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ที่กองทัพบก และฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไว้ เมื่อปี 2558
นายทศพล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2552 ซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ต่อมาในเดือน พ.ค. 2558 กองทัพบกได้แจ้งความดำเนินคดีนายทักษิณ กับพนักงานสอบสวน บก.ปอท.จากกรณีที่มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ และได้มีการออกหมายจับ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นการกระทำความผิดในต่างประเทศ อำนาจการสอบสวนดำเนินคดีจึงเป็นของอัยการสูงสุด ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2560 ทางอัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ 2 ข้อหา คือ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ขณะนั้นนายทักษิณหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถนำตัวส่งฟ้องศาลได้ แต่ ขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่านายทักษิณไดัเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ตัวแทนพรรคไทยภักดีมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ เร่งรัดนำตัวนายทักษิณส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ นายทศพล พรหมเกตุ ยังฝากไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร ว่า ยังมีโอกาสเป็นรัฐบุรุษเหมือนกับ นายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ จึงอยากให้มีพฤติกรรมทำตัวให้สมเกียรติยศกับที่มวลชนคนเสื้อแดงเคารพศรัทธา โดยการยอมถูกจำคุก 8 ปี โดยไม่ขอพระราชทานอภัยโทษ จะได้ไม่ต้องสร้างภาระให้กับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประวัติศาสตร์จะจารึกจดจำนายทักษิณในฐานะเป็นรัฐบุรุษต่อไป
ภายหลังยื่นหนังสือร้อเรียน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ลงเลขรับเเละรายงานตามขั้นตอนต่อไป
วันเดียวกันนี้ ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธนเดช ตุลยลักษณะ รองเลขาธิการพรรคไทยภักดี เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อขอให้ตำรวจ บก.ปอท. ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายธนเดช กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเก่า เมื่อปี 58 ที่ทางกองทัพบกได้เคยแจ้งความกับ นายทักษิณ ไว้ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีให้สัมภาษณ์ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในลักษณะพาดพิงสถาบัน ซึ่งมีการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ คดีดังกล่าวก็ยังไม่หมดอายุความ ประกอบกับปัจจุบัน นายทักษิณ ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยปรากฎตัวเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้ว จึงอยากให้ทางตำรวจช่วยเร่งรัดนำตัวนายทักษิณ ส่งมอบให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีโดยเร็วที่สุด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป