กองปราบบุกรวบไนจีเรียพร้อมสมุน 14 ราย ตั้งแก๊ง “แสร้งรักออนไลน์” ปลอมเป็นทหารหญิงอเมริกัน ตุ๋นเงินคนไทยกว่า 800 ล้านบาท
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. ร่วมแถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊ง “Romance Scam ลวงให้รักก่อนเชิดเงินหนี” สามารถจับกุม นายอูโซซูกะวู อายุ 45 ปี ชาวไนจีเรีย, น.ส.ปุณยวีร์ ชูสินจิรพัฒน์ อายุ 47 ปี, น.ส.วาสนา บุตรพัน อายุ 30 ปี, น.ส.ธัญญรัศม์ เคนวิเศษ อายุ 39 ปี, นายอนุวัฒน์ วัลลา อายุ 18 ปี, นายพนิชศักดิ์ เถาวงษ์ศา อายุ 19 ปี, นายมนตรี หอมฉวี อายุ 23 ปี, นายเอนก รอดด้วยบุญ อายุ 41 ปี, นายณัฐพล บุญกมติ อายุ 36 ปี, นายณัฐินันท์ แจ้งไชยศรี อายุ 21 ปี, นายพิษณุ เขียวชอุ่ม อายุ 34 ปี, น.ส.อุษา ดวงสุวรรณ อายุ 35 ปี, นายปุณณวิช บุญเลิศ อายุ 27 ปี และ นายณพล พวงทอง อายุ 26 ปี
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้กำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 14 จุด ทั่วประเทศ แบ่งเป็นในพื้นที่ กทม. 7 จุด, ปทุมธานี 1 จุด, พิษณุโลก 2 จุด, อุทัยธานี 1 จุด, อุตรดิตถ์ 1 จุด, กำแพงเพชร 1 จุด, พิจิตร 1 จุด จากปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 14 คน แบ่งเป็น ผู้ต้องหาชาวไทย 13 ราย และ ผู้ต้องหาสัญชาติไนจีเรีย 1 ราย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 21 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 20 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 18 ใบ สมุดกองทุนรวมธนาคาร 1 เล่ม คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง เอกสารโอนเงินไปต่างประเทศ จำนวน 5 ชุด ซิมการ์ดโทรศัพท์ 1 อัน เมมโมรี่กล้อง 3 ตัว และ กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Chanel จำนวน 2 ใบ
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อต้นปี 65 ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพมาทำทีตีสนิทผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้โปรไฟล์เป็นรูปภาพหญิงต่างชาติหน้าตาดี อ้างตัวว่าเป็นทหารชาวอเมริกันปฏิบัติภารกิจอยู่ในประเทศซีเรีย เมื่อพูดคุยกันจนสนิทสนม มิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็เริ่มออกอุบายว่า กำลังจะเดินทางมาประเทศไทย เพราะประทับใจและตกหลุมรักในตัวผู้เสียหายมาก พร้อมอ้างว่าได้ส่งพัสดุภายในเป็นทรัพย์สินมีค่ามาให้ แต่ติดปัญหาไม่สามารถนำออกจากสนามบินได้จึงอยากให้ผู้เสียหายช่วยจ่ายเงินค่าภาษีให้ก่อนแล้วจะคืนเงินให้ภายหลัง
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเห็นว่า ผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อกลุ่มคนร้ายก็จะให้ผู้ร่วมขบวนการที่เป็นคนไทยทำทีโทรศัพท์ติดต่อมายังผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน ก่อนหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อนำกล่องพัสดุออกจากสนามบินได้ จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ไปจำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงินกว่าล้านบาท เมื่อเห็นว่าได้ยอดเงินตามที่ต้องการแล้วคนร้ายกลุ่มนี้ก็จะตัดขาดการติดต่อไปในที่สุด
ส่วน พ.ต.ท.อัครพล กล่าวว่า หลังรับเรื่องทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแสจนพบว่า คนร้ายกลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ มีทั้งคนไทยและชาวไนจีเรีย โดยเฉพาะ นายอูโซซูกะวู ซึ่งเมื่อปี 61 เคยถูกจับในคดีลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกหลายครั้ง อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบว่าเมื่อได้เงินจากผู้เสียหายแล้วก็จะรีบโอนออกไปยังบัญชีธนาคารต่างประเทศโดยทันที เฉพาะตั้งแต่ปี 61-64 พบเงินหมุนเวียนรวมกว่า 800 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า จากการสอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายนั้น ให้การว่า ขณะนั้นถูกว่าจ้างมาจากแฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย ซึ่งเจอกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ได้คบหากันแล้ว โดยได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากการหลอกลวงดังกล่าว อ้างสาเหตุที่ต้องทำ เพราะช่วงนั้นไม่มีงานทำ ซึ่งหลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป