รอง ผบ.ตร.แถลงขยายผลจับกุมเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จากประเทศเพื่อบ้านเข้าไทย
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวการขยายผลจับกุมเครือข่ายลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รถตู้ลักลอบขนแรงงานพลิกคว่ำบนถนนสายเอเชีย ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จนเกิดเพลิงลุกไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า รถขนแรงงานคันที่ประสบอุบัติเหตุเป็นหนึ่งในกลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าวที่ทางตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ สภ.บางปะอิน สามารถสกัดจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยในวันเกิดเหตุพบว่า ขบวนการดังกล่าวได้จัดเตรียมรถตู้ขนแรงงาน 6 คัน และรถนำทางตรวจสอบเส้นทางที่ไม่มีด่านอีก 3 คัน รวมทั้งหมด 9 คัน ทำหน้าที่ขนส่งแรงงานต่างด้าว จากชายแดนประเทศเมียนมา ที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก ไปส่งตามจุดต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ปรากฏว่า ในวันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับกุมรถตู้ขนแรงงานพร้อมรถนำทางรวม 2 คัน ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย เป็นคนขับรถทั้งสองคันและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 13 ราย ในพื้นที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ กับสามารถสกัดจับกุมรถตู้ขนแรงงานได้ตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับรถ 1 นาย และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอีก 13 รายในพื้นที่ สภ.บางปะอิน
ส่วนรถตู้คันที่ประสบอุบัติเหตุ พบว่า ได้พยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำในพื้นที่ สภ.พระอินทร์ราชา ทำให้คนขับรถตู้เสียชีวิตพร้อมแรงงานอีก 3 ราย มีแรงงานรอดชีวิต 6 ราย ส่วนรถตู้ขนแรงงานและรถนำทางอีก 5 คันที่เหลือ สามารถหลบหนีไปได้
จากการสืบสวนขยายผล พบว่า ตัวการใหญ่ที่สุดของขบวนการนี้ คือ นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) มีถิ่นพำนักในพื้นที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก ทำหน้าที่ประสานงานกับนายบำรุง และ นายพรชัย (สงวนนามสกุล) เพื่อติดต่อไปยังนางพอ คุ ทู นายหน้าจัดหาแรงงานฝั่งประเทศเมียนมา เพื่อให้จัดหาแรงงานต่างด้าวตามจำนวนที่นายวิเชียรต้องการ
จากนั้น นางพอ คุ ทู จัดหาแรงงานได้ตามคำสั่งก็จะนำแรงงานต่างด้าวเดินข้ามพรมแดนประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ก่อนที่นายวิเชียรจะติดต่อให้นายณรงค์ศักดิ์ และ นายธนะเมศฐ์ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่ว่าจ้างกลุ่มคนขับรถตู้มารับ แรงงานกลุ่มนี้ไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ ที่นายวิเชียรสั่งการ โดยนายวิเชียรจะจ่ายค่าจ้างผ่านการโอนให้กับบัญชีม้า 3 คน และให้บัญชีทั้ง 3 ถอนนำเงินไปวางไว้หน้าบ้านของนายณรงค์ศักดิ์ และ นายธนะเมศฐ์ เพื่อให้ทั้งสองนำเงินไปแจกจ่ายแก่บรรดากลุ่มคนขับรถตู้ส่งแรงงาน โดยจะได้ค่าจ้างโดยรวมประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อครั้ง รวมทั้งขบวนการเบ็ดเสร็จทั้งสิ้น 18 ราย
หลังจากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนเพียงพอ ทางตำรวจจึงขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 18 ราย โดยในจำนวนนี้มี 1 ราย ต้องแยกดำเนินคดีเนื่องจากเป็นเยาวชนและเสียชีวิตจากเหตุการณ์รถคว่ำในพื้นที่ สภ.พระอินทร์ราชา 1 ราย ซึ่งทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกคน โดยเฉพาะนายวิเชียรซึ่งเป็นตัวการใหญ่ที่สุด
ทั้งหมดถูกแจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวหรือช่วยเหลือให้เข้ามาในราชอาณาจักร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวิเชียรในพื้นที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก พบว่า มีรถกระบะและรถบรรทุกรวมทั้งหมด 16 คัน พบการสร้างโรงจอดรถไว้สำหรับเปลี่ยนยางอะไหล่เพื่อใช้ลักลอบขนย้ายแรงงานตามแนวชายแดน และมีที่ดินมากถึง 9 ไร่ ทางตำรวจได้ยึดอายัดทรัพย์สินของกลางเหล่านี้ไว้ทั้งหมด เพราะเชื่อได้ว่าน่าจะได้มาจากการกระทำความผิด
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีพฤติการณ์เป็นขบวนการอาชญากรรมระหว่างประเทศและการทำความผิดมาอย่างยาวนาน ทางตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อเป็นความผิดมูลฐานอันเข้าสู่การแจ้งข้อหาฟอกเงินได้ โดยเตรียมจะหารือกับทาง ปปง. เพื่อแจ้งข้อหาความผิดฐานฟอกเงินและอายัดทรัพย์กับขบวนการเหล่านี้ต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขบวนการนี้นั้นพบว่ากระทำความผิดมาแล้วหลายครั้ง โดยให้สั่งการให้ทางตำรวจเร่งขยายผลเพิ่มเติมว่า มีบุคคลอื่นมีส่วนร่วมกับขบวนการนี้หรือไม่ รวมทั้งจะเร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ให้หมดไป เนื่องจากประเทศไทยยังไม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นเป็นเทียร์หนึ่ง จากรายงานค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons (TIP) Report) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะยังพบว่าประเทศไทยถูกใช้ไปทางผ่านขนแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้สั่งการและคาดโทษไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจตามแนวชายแดนของประเทศ โดยเฉพาะฝั่งประเทศเมียนมา ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบเข้าพรมแดนประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติให้มากขึ้น รวมทั้งหลังจากนี้ หากพบว่าขบวนการขนแรงงานต่างด้าวกลุ่มไหนมีความเชื่อมโยงกับนายหน้าหรือผู้กระทำความผิดในต่างประเทศ จะแจ้งข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติทั้งหมด ในส่วนของ นางพอ คุ ทู ตอนนี้ได้ประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงและจะประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจประเทศเมียนมา เพื่อติดตามจับกุมนายหน้าคนนี้มาดำเนินคดีที่ประเทศไทยให้ได้