MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส. เผย หน่วยปฏิบัติการ AITF ขยายผลเครือข่ายยาเสพติด บุกจับชาวฮ่องกง 2 ราย บนคอนโดฯ กลางเมือง เอี่ยวส่งพัสดุซุกเฮโรอีนไปฮ่องกง
วันนี้ (17 ส.ค.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงผลการจับกุมชาวฮ่องกง 2 ราย พร้อมเฮโรอีน จำนวน 4 กิโลกรัม ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 กทม. ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล พบเป็นเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่มีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดผ่านพัสดุไปยังฮ่องกง
นายวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานความร่วมมือจากตำรวจฮ่องกง หลังพบว่า เครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวฮ่องกงมีพฤติการณ์ลักลอบส่งพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดไปยังฮ่องกง จึงได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด จัดชุดปฏิบัติการ ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน Airport Interdiction Task force : AITF ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส., กรมศุลกากร, บช.ปส. และ ศรภ. ทำการสืบสวนขยายผล
นายวิชัย กล่าวอีกว่า โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลทราบว่า เครือข่ายดังกล่าวใช้ห้องพักในคอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 กทม. เป็นสถานที่แพ็คบรรจุยาเสพติดก่อนจัดส่งพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ไปยังปลายทางฮ่องกง จึงเฝ้าสังเกตุการณ์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการ AITF พบชาวฮ่องกง 2 คน ลงมารับพัสดุที่จุดรับพัสดุของคอนโดฯ (ทราบภายหลังว่าเป็นปูนพลาสเตอร์) เตรียมนำไปเก็บไว้ที่ห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นห้องพัก ผลการตรวจค้น พบเฮโรอีน จำนวน 12 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับซุกซ่อนยาเสพติด อาทิ แม่พิมพ์สิงโต ปูนพลาสเตอร์สีทองสำหรับทาวัสดุ (ซึ่งเป็นลักษณะการซุกซ่อนยาเสพติดในรูปปั้นสิงโต เช่นเดียวกับกรณี การตรวจยึดเฮโรอีน 4.36 กิโลกรัม ที่ กทม. เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 66 และตำรวจฮ่องกง ตรวจยึดเฮโรอีน 3.5 กิโลกรัม ที่ ฮ่องกง เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 66) เหตุเกิดที่ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 กทม.
“สำหรับในห้วงเดือน ส.ค. 66 สำนักงาน ป.ป.ส. และตำรวจฮ่องกงทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ปลายทางฮ่องกง จนนำไปสู่การจับกุมได้ 4 ครั้ง รวมของกลางเฮโรอีนกว่า 11.86 กิโลกรัม” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
นายวิชัย กล่าวเสริมว่า หลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการประสานตำรวจฮ่องกงเพื่อทำการสืบสวนขยายผล ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดเพื่อหาตัวผู้บงการ และเนื่องจากเครือข่ายนี้มีพฤติการณ์ใช้บุคคลหลายคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาฝากส่งพัสดุจากไทยไปยังฮ่องกงและใช้หนังสือเดินทางปลอมประกอบการนำส่งพัสดุ พบว่า ในห้วง มิ.ย.- ส.ค. 66 เครือข่ายดังกล่าว ได้นำพัสดุมาฝากส่งไปแล้ว รวมกว่า 20 กล่อง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการนำข้อมูลดังกล่าวมาสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับเครือข่ายยาเสพติดต่อไป