MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร. ห่วงใยประชาชน ขับเคลื่อนโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย” มุ่งลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน สร้างตำรวจจราจรมืออาชีพ มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
วันนี้ (10 ส.ค.) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและสังคม จึงได้จัดทำโครงการ “สุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย” โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศจร.ตร.) ขับเคลื่อน เร่งรัดและติดตามประเมินผลโครงการฯ ให้บรรลุผลสำเร็จ
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า การดำเนินโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย มีวัตถุประสงค์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในแต่ละพื้นที่ ตามเป้าหมายของสถิติการเกิดอุบัติเหตุ โดยต้องสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากกว่า 10 คนต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องสามารถลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลต่างๆตามเป้าหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในสายงานจราจร ให้มีความรู้ เกี่ยวกับกฎหมายจราจร ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ มีทักษะในการปฏิบัติงานด้านการจราจรที่สูงขึ้น เช่น การอำนวยการจราจรบนถนน การควบคุมสัญญาณไฟ การตั้งจุดตรวจ รวมถึงสามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้อย่างแท้จริง ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน ภาคีเครือข่ายกับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติ เกิดความร่วมมือจากประชาชน เสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานจราจร โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนโครงการฯ โดยสุภาพบุรุษจราจรจะต้องปฏิบัติตามหลัก 5S ได้แก่ SMILE คือ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส SMART คือ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยบุคลิกภาพที่ดี และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย SALUTE คือ การปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุภาพและให้เกียรติ SERVICE MIND คือ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจ ของการให้บริการที่ดี และ STANDARD คือ ยกระดับในการปฏิบัติงานให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยในห้วง ต.ค.65 - ปัจจุบัน หน่วย บช.น., ภ.1 - 9 และ บก.ทล. ได้เร่งรัดดำเนินกิจกรรมโครงการ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย ในพื้นที่ของหน่วย โดยเฉลี่ย กว่า 1,500 กิจกรรมโครงการต่อหน่วย ซึ่งได้รับความร่วมมือและการตอบรับจากประชาชนและสังคมเป็นอย่างดีและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ให้มาร่วมกิจกรรมและตรวจประเมินโครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย ของตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งมีผลการลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในพื้นที่เป็นที่น่าพอใจ โดยในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา ในระหว่างดำเนินโครงการฯ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จำนวน 1,636 คน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง ซึ่งมีจำนวน 1,904 คน สามารถลดลงได้ 268 คน (ลดลง 14.08%) และได้ดำเนินกิจกรรมโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ภายใต้ความเหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์และการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่แต่ละจังหวัด ดังนี้ 1)ภ.จว.สมุทรปราการ โครงการชนท้าย ตายอย่างเดียว 2)ภ.จว.นนทบุรี โครงการลดจุดเสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุ 3)ภ.จว.ปทุมธานี โครงการโรงงานห่วงใย พนักงานขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 % 4)ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา โครงการรู้สาเหตุ ลดจุดเสี่ยง เลี่ยงการตาย 5)ภ.จว.อ่างทอง โครงการจ่าเฉย All New 6)ภ.จว.สิงห์บุรี โครงการ สิงห์บุรีปลอดภัย มั่นใจ ทุกเส้นทาง 7)ภ.จว.ชัยนาท โครงการลดแรง ลดเร็ว ลดตาย 8)ภ.จว.ลพบุรี โครงการรณรงค์เยาวชนขับขี่ปลอดภัย 9)ภ.จว.สระบุรี โครงการจราจรไร้รอยต่อ : การบริหารควบคุมสั่งการจราจรโดยใช้ระบบเทคโนโลยี โดยทุกโครงการสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุผลเป็นรูปธรรมและเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการอย่างสูงสุด
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งหวังว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว จะประสบผลสำเร็จในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนสามารถสัญจรอย่างปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจน การเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นมาตรฐานสากล ภายใต้ความร่วมมือของประชาชนและสังคม ดังนั้นสถานีตำรวจและข้าราชการตำรวจทุกนาย จักต้องดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจริงจัง ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและสังคมได้รับประโยชน์สูงสุด