“มาริโอ” ดารานักแสดงชื่อดัง เข้าพบ ตร.สอท.แจงที่มาของ รถเบนซ์ G300 เผย ไม่กังวลอยู่ในฐานะพยาน รับวางมัดจำไว้ 5 แสนบาท ก่อนยกเลิกเพราะประกอบไม่เสร็จตามสัญญา
จากกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และกรมขนส่งทางบก สามารถจับกุม นายเสถียร เรืองสมุทร อายุ 38 ปี และ นายศริสร สุทธิเจต อายุ 44 ปี ขบวนการลอบเจาะระบบขนส่งทางบก แก้ไขข้อมูลสวมทะเบียนรถ เพื่อให้ข้อมูลในระบบ MDM ของกรมการขนส่งทางบก ตรงกับข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ ก่อนออกเล่มทะเบียนใหม่เพื่อนำไปขายต่อให้กับกลุ่มนิยมสะสมรถเก่า รถโบราณ ในราคาเล่มละ 5 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท
วันนี้ (9 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. มาริโอ้ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีสวมทะเบียนรถ ตามหมายเรียก เพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน โดยเดินหลบหน้าสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวผ่านทางชั้นใต้ดิน คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในการสอบปากคำ
หลังจากที่สอบปากคำเสร็จ มาริโอ้ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนมีชื่อเป็นเจ้าของทะเบียนรถจริง แต่ตัวรถที่ทำสัญญาซื้อยังไม่ได้ครอบครอง เนื่องจากทางรุ่นพี่ที่เป็นคนติดต่อขายรถให้กับตนนั้นติดปัญหาอะไรบ้างอย่าง ทำให้รถมาไม่ถึง และรุ่นพี่ได้คืนเงินค่าเสียหายทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ตนจึงเป็นผู้เสียหาย ไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งตำรวจเองก็ได้เรียกสอบปากคำในฐานะพยาน ตนไม่กังวนอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ตนได้คุยกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดที่เหลือตนไม่สามารถพูดได้ แต่ก็เป็นไปตามกระบวนการ
พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท ให้สัมภาษณ์หลังจากสอบสวนปากคำมาริโอ้ กล่าวว่า ที่เรียกพยานมาทั้งหมด 3 ท่าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการครอบครองรถทั้ง3 ท่านเลย ซึ่ง 2 คนมีชื่อในการครอบครองรถและอีก 1 คน เป็นคนรู้จักกับมาริโอ้เอารถมาขายให้กับมาริโอ้ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่รู้จักกันมาประมาน 2-3 ปี ส่วนอีกคนก็เป็นพี่ชายของคนที่มาริโอ้ซื้อรถ ตอนนี้ตัวพี่ชายอยู่ในระหว่างการสอบสวนอีกชุด แยกสอบกันอยู่ ต้องดูรายละเอียดอีกทีหลังจากสอบเสร็จแล้ว
ซึ่งตนคิดว่ามาริโอ้อาจจะไม่รู้เพราะว่าเขาซื้อมาจากเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งชื่อว่า คุณก้อง มาริโอ เพียงแต่ว่าซื้อเพราะรู้จักกันเคยซื้อของซื้อฟอร์นิเจอร์รู้จักกันมาหลายปี และคุณก้องก็มาเสนอขายรถมาริโอ้เลยสนใจ ในการทีจะซื้อเพราะว่าปกติเขาเป็นคนเล่นรถเก่าอยู่แล้ว รถโบราณเขาเลยสนใจและตกลงกันจะซื้อในราคา 1,500,000 บาท และในการตกลงก็ทำสัญญาและมัดจำไว้แล้ว 500,000 บาท เสร็จแล้วจะส่งมอบรถกันภายใน 60 วัน พอถึงระยะเวลา 60 วัน รถก็อยู่ในระหว่างการทำไม่สามารถส่งรถได้ เลยได้ยกเลิกสัญญาและคืนเงินให้ ในการซื้อขายจะซื้อทั้งรถและทะเบียนแต่ว่าในครั้งแรกยังไม่ได้บอกว่าจะส่งมอบกันภายใน 60วัน ตอนแรกยังไม่ได้และต่อมาเขาก็ไปทำเรื่องโอนกัน แต่รถยังทำไม่เสร็จ อาจจะมีเพิ่มเติมภายในรถ แต่ว่าได้สำเนาทะเบียนมาให้มาริโอ้ดูก่อน
มาริโอ้ ให้การว่า ตัวเขาไม่ได้เจอรถ แต่ว่าเขารู้จักว่ารถรุ่นนี้เป็นอย่างไรหน้าตายังไง ก็เลยไว้ใจซื้อเพราะเขาเคยซื้อมาก่อน ซึ่งตนคิดว่าราคารถเป็นราคาที่พึ่งพอใจหลายๆอย่าง ถ้าเป็นเราก็อาจจะว่าแพงไป แต่ว่าในราคา 1,500,000 บาท เราก็ไม่รู้ว่าข้อตกลงที่ซื้อนี้เพราะอะไร ซึ่งอาจจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งกับเกรย์มาร์เก็ต เขาตกลงซื้อขายประมานกลางเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งมาริโอเขาเชื่อใจเพราะว่าคนนี้ขายเฟอร์นิเจอร์ของเก่ากับเขาตลอดเวลาอยู่แล้วเลยไว้ใจ เชื่อใจ แต่รถเขาไม่เคยซื้อขายกัน ซึ่งมาริโอ้ก็มีความกังวล เพราะกลัวว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจเขา แต่ในความรู้สึกเขาก็มั่นใจตัวเขา เราก็ต้องรับฟังเขา และเราก็ต้องเอาที่เขาให้การมา เดี่ยวจะต้องรวบรวมคำให้การเขาและพยานพร้อมกับพยานที่จะต้องสอบเพิ่มกับหลักฐานที่เขามีอยู่และประชุมพนักงานสอบสวน ว่า มีความเห็นยังไงมีความหน้าเชื่อถือไหมสิ่งที่เขาพูดมา ที่เขายกเลิกสัญญาเพราะว่า 60 วัน ตามสัญญาไม่ได้มา พอไม่ได้รถมาคนขายก็พยายามคุยกับมาริโอ้เสร็จแต่ไม่ได้ตามกำหนดแน่นอนเลยยกเลิกสัญญาคืนเงิน