รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ชูวิทย์ ปืนลั่นใส่ตัวเอง เลี่ยงภาษีย้อนเข้าตัว ลูก 4 คนรับกรรมแทน
ท่องคาถาไม่มีอะไรจะเสีย มหาโจร ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออาบ อบ นวด ลุยดิสเครดิต “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย อย่างไม่ลดละ
ชูวิทย์ เปิดเรื่องด้วยลีลาจับแพะชนแกะ หยิบเอากรณีซื้อขายที่ดินย่านสารสิน ของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) สมัย นายเศรษฐา นั่งเป็นผู้บริหาร มาเล่นใหญ่ตีปิ๊บตามสไตล์ว่า มีความไม่ชอบมาพากล
แต่ทำไปทำมาไม่ทันข้ามวันเจอจับได้ไล่ทันว่า ปฏิบัติการ “แฉเพื่อชาติ” ที่แท้แค่ต้องการแก้แค้น เหตุ แสนสิริ ไม่ยื่นมือช่วยซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท ของครอบครัวกมลวิศิษฎ์เท่านั้น
ตามภาพหลักฐานที่ระบุว่า นายชูวิทย์ บากหน้าไปขอเข้าพบและเจรจา “เสี่ยนิด” ถึงบริษัทฯ เพื่อขอให้ซื้อที่ดินในซอยสุขุมวิท 24 เพราะสัญญาร่วมทุนสองพันล้านกับรายเก่าทำท่าจะไปไม่รอด
ซึ่งขัดแย้งและสวนคำแก้ตัวนายชูวิทย์อ้างว่า แสนสิริ ติดต่อขอซื้อมาเอง แต่ขายให้ไม่ได้ เพราะขายให้กับเจ้าอื่นไปแล้ว
สำหรับดีลขายที่ดินผืนสุดท้ายของชูวิทย์ หลังจากสวนชูวิทยที่ตอนนี้มีค่าเป็นศูนย์ในทางธุรกิจไปแล้ว เพราะตกเป็นที่สาธารณะประโยชน์หลังมีการแสดงออกในทางพฤตินัยถึงการสละที่ดินไปแล้ว เมื่อตามกฎหมายตกเป็นที่ดินสาธารณะอย่างปฏิเสธไม่ได้ สวนชูวิทยเลยซื้อขายกันไม่ได้
ส่วนที่ดินผืนสุดท้ายอยู่หลังโรงแรม เดอะ เดวิส บางกอก ในซอยสุขุมวิท24 จำนวนพื้นที่557 ตารางวา เดิมที แสนสิริ ก็สนใจ แต่ก็ติดที่ นายชูวิทย์ ยังเคลียร์กับผู้ซื้อรายเก่าไม่จบ แถมใบอนุญาตก่อสร้างอาคารสูงที่ขายพ่วงมา ก็อาจจะใช้ไม่ได้จริง
แล้วยังมีเอกสารลายเซ็นต์ลูกๆนายชูวิทย์ ที่ร่อนไปขอยกเลิกสัญญากับผู้ซื้อรายเก่า แถมริบเงินมัดจำ พร้อมทวงค่าเสียโอกาสรวมกว่า 1 พันล้านบาท ในช่วงที่กำลังเจรจากับทาง แสนสิริ
ทำให้เห็นว่า นายชูวิทย์ อยากขายให้ แสนสิริ จนตัวสั่น แต่ตกลงกันไม่ได้มากกว่า
ซ้ำร้ายยังมีข้อมูลหลุดออกมาอีกว่า การซื้อขายที่ดิน 557 ตารางวา หลังโรงแรม เดอะ เดวิส บางกอก ซอยสุขุมวิท 24 ที่สนนราคาแพงระยับกว่า 2 พันล้านบาทนั้น ส่งกลิ่นตุๆ จะมีการหลบเลี่ยงภาษีมหาศาลทีเดียว
ตามข้อมูลสลักหลังโฉนดทั้ง 4 แปลง ที่ลูกๆ 4 คนของนายชูวิทย์ถือก่อนขายให้ผู้ซื้อ เมื่อปี 2562 ซึ่งมีการโอนกรรมสิทธิ์ในวันเดียวกัน คือ 27 กันยายน 2562 และสำคัญที่ “ราคา” ขาเข้า-ออก ต่างกันลิบลับ ที่เรียกว่า ราคาบวม ขึ้นมาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
คนในวงการอสังหาฯฟันเปรี้ยง นี่แหละกระบวนท่า “เลี่ยงภาษี” ของแท้
จากเดิมที่ดิน 557 ตารางวาผืนนี้ แบ่งโฉนดออกเป็น 2 แปลงๆ ละ 278.5 ตารางวา ถือกรรมสิทธิ์โดย บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด บริษัทของนายชูวิทย์ ตั้งแต่ช่วงปี 2542
ปรากฎว่า ภายหลังจากที่ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ซื้อรายเก่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 อีก 3 วันถัดมาคือ วันที่ 27 กันยายน 2562 มีการซอยแบ่งโฉนดเป็น 4 แปลง เท่าๆกัน (139.3 ตารางวา 2 โฉนด และ 139.2 ตารางวา 2 โฉนด) ก่อนโอนจาก บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด ให้กับลูกของนายชูวิทย์ 4 คน ได้แก่ นายต้นตระกูล, นายเติมตระกูล, น.ส.ตระการตา และนายต่อตระกูล คนละ 1 แปลง
ระบุราคาซื้อขายที่แปลงละ 27.86 ล้านบาท รวม 4 แปลง เป็นราคา 111.4 ล้านบาท หรือตกแค่ตารางวาละ 2 แสนบาท
และ วันเดียวกันนั้น ลูกนายชูวิทย์ทั้ง 4 คนก็โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินต่อให้ บริษัท เดวิส ไรมอน แลนด์ ทเวนตี้ โฟร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตั้งไว้รอการร่วมทุนระหว่าง ครอบครัวกมลวิศิษฎ์ กับบริษัทไรมอน แลนด์ (มหาชน)จำกัด
ระบุราคาขายที่แปลงละ 502,388,500 บาท รวม 4 แปลง ราคา 2,009,554,000 ล้านบาท ตกตารางวาละ 3.6 ล้านบาทเศษ เป็นราคาที่เตรียมสร้างต้นทุนไว้รอบริษัทไรมอน แลนด์ มาร่วมลงทุน หวังฟันกำไรเละเทะ
ตีตัวเลขกลมๆ มูลค่าการโอนที่ดิน 2 ทอดในวันเดียวกันแท้ๆ ต่างกันถึง 18 เท่าตัว
มองผิวเผินอาจมองได้ว่า การโอนที่ดินทอดแรกจาก “บริษัทกงสี” ให้กับ “ทายาท” ในราคา “ต่ำเป็นพิเศษ” ก็เพื่อให้ทุกคนโกยกำไรเต็มที่จากการขายที่ดิน
แต่ในวงการอสังหาฯรู้ดีว่า เป็น “นิติกรรมอำพราง” เพื่อเลี่ยงภาษีเงินได้ของบริษัทจำกัด ในที่นี้คือ บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด บริษัทกงสีของตระกูลกมลวิศิษฎ์
โดยมี “แนวปฏิบัติ” ของกรมสรรพากร ซึ่งอ้างอิงตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ(4) ที่เกี่ยวกับ “ภาษีเงินได้นิติบุคคล” สาระสำคัญความว่า “บริษัทจำกัดจะต้องโอนขายทรัพย์สินในราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาด มิฉะนั้น เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินค่าตอบแทน “ตามราคาตลาดในวันที่โอน” ได้”
ตาม “ข้อเท็จจริง” จึงถือว่าราคา 2,009 พันล้านบาทเศษ เป็น “ราคาตลาดในวันโอน” ทำให้ บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด ต้องถูกประเมินให้มีกำไรในทางภาษีราว 1,900 ล้านบาท (หักจากราคาที่ขายให้กับลูกๆนายชูวิทย์ 111.4 ล้านบาท) และต้องเสียภาษีเงินได้ 380 ล้านบาท หรือ (1,900x20%)
ซึ่งไม่สามารถยึดราคาขายให้แก่ลูกๆนายชูวิทย์ 4 คน เพื่อชำระภาษีเพียง 11.4 ล้านบาทเศษ เหมือนที่ผ่านมาได้
หากคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด ต้องชำระตาม “ข้อเท็จจริง” คือ ภาษีเงินได้ 380 ล้านบาท บวกด้วยเบี้ยปรับ 1 เท่าตัว หรือ 380 ล้านบาท และเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (ตั้งแต่ มิ.ย.63-ก.ค.66 ) หรือราว 205 ล้านบาท
รวมภาษีที่ลูกทั้งสี่คนของชูวิทย์ต้องจ่ายราว 965 ล้านบาท หัก 11.4 ล้านลาทที่ชำระไปแล้ว
เท่ากับว่าการโอนที่ดินของชูวิทย์หลบเลี่ยงภาษีชัดเจน ทำให้รัฐเสียรายได้เข้าแผ่นดินถึง 954 ล้านบาท เป็นจำนวนที่มากกว่าที่นายชูวิทย์กล่าวหากรณี แสนสิริ เกือบเท่าตัว
โทษเลี่ยงภาษี กฎหมายภาษีกำหนดโทษทางอาญาไว้ด้วย คือมาตรา 37 ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 2 แสนบาท
(1) โดยเจตนาแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จหรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรหรือเพื่อขอคืนภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ
(2) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบายหรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรหรือขอ
คืนภาษีอากรตามลักษณะนี้
ซึ่งการกระทำของลูกชูวิทย์ เข้าลักษณะความผิดตามวรรคสองของมาตรา37 ส่วนตัวชูวิทย์อาจเข้าข่ายความผิดเป็นตัวการและผู้สนับสนุน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
การที่นายชูวิทย์หยิบประเด็น “เลี่ยงภาษี” มาเล่นงานคนอื่น ทั้งที่ตัวเองก็มี “แผล” อยู่ ไม่ต่างจากการทำ “ปืนลั่นใส่ตัวเอง” และยังชัดแจ้งกว่าที่กล่าวหาคนอื่นเสียด้วย
ซ้ำร้ายผลกรรมอาจไม่ตกกับนายชูวิทย์ แต่กลายเป็นลูกๆทั้ง 4 คน ต้องรับผลกรรมที่พ่อบังเกิดเกล้าทิ้งไว้ให้แทน.
--------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1