“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 ตอน ก้าวไกล มีปัญหาอีก ถึงเวลาต้องเลือก ผู้นำฝ่ายค้าน-รองประธานสภา
สถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้ แม้ว่าถนนทุกสายจะพุ่งไปที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยภายหลังทั้งสองพรรคการเมืองได้ประกาศร่วมกันเป็นพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมีเสียงรวมกันเบื้องต้น 212 เสียง แต่ประเด็นหนึ่งที่ยังมองข้ามไม่ได้ คือ จังหวะการเดินของพรรคก้าวไกลต่อไปจากนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ต่อให้ในอนาคตศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อกลางที่ประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่นายพิธาจะได้รับเสียงสนับสนุนเกิน 375 เสียง เพื่อก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่30ของประเทศไทย
เท่ากับว่าพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองที่มีเสียงอันดับหนึ่งจะกลายเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านในสภาฯไปโดยปริยาย
แต่อย่างไรก็ดี การเป็นพรรคฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลนั้นกำลังมีปัญหาที่สำคัญ คือ นายพิธา อาจะไม่ได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ เป็นเพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำหนดเงื่อนไขของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเอาไว้ว่า
จะต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่พรรคการเมืองนั้นจะต้องไม่มีสมาชิกของพรรคไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งในกรณีของพรรคก้าวไกล ปรากฏว่า 'หมออ๋อง' นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เท่ากับว่าด้วยเงื่อนไขของมาตรา 106 จะทำให้นายพิธา ไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้
เมื่อเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกลจะต้องชั่งน้ำหนักว่าระหว่างการมีผู้นำฝ่ายค้าน หรือรองประธานสภาคนที่ 1 แบบใดจะสร้างประโยชน์ต่อการทำงานนิติบัญญัติให้กับพรรคก้าวไกลมากกว่ากัน
ทั้งนี้ การรักษาตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เอาไว้ด้านหนึ่งย่อมมีประโยชน์ต่อพรรคก้าวไกลไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการมีปากมีเสียงในสภาเพื่อผลักดันกฎหมายสำคัญให้ประสบผลสำเร็จ
รวมไปถึงการทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภาในนัดสำคัญ เช่น การพิจารณากฎหมายงบประมาณ และ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะเดียวกัน หากพรรคก้าวไกลเลือกจะให้นายพิธา ขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็เป็นผลดีต่อพรรคเช่นกัน เพราะนอกเหนือไปจาการจะทำให้การทำงานของฝ่ายค้านมีความเป็นเอกภาพภายใต้การนำของผู้นำฝ่ายค้านแล้ว
อีกด้านหนึ่งต้องไม่ลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปิดโอกาสให้ผู้นำฝ่ายค้านเข้าไปนั่งเป็นกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการในองค์กรอิสระต่างๆด้วย ประจวบเหมาะกับจังหวะที่เวลานี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการองค์อิสระหลายคนกำลังจะหมาดวาระลง จึงเป็นโอกาสดีที่จะพรรคก้าวไกลจะได้เข้ากลั่นกรองศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระตั้งแต่ต้นทางด้วย
เส้นทางเดินของพรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้านนั้นต้องยอมรับว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหมออ๋องว่าจะทิ้งเก้าอี้รองประธานสภาหรือไม่เป็นสำคัญ เพราะยอมสละรองประธานสภา ย่อมเท่ากับว่านายพิธาจะมีโอกาสขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
แต่จะได้ทั้งสองเก้าอี้ไม่ได้ จะเข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา106 โดยทันที
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1