คู่กรณีขับรถชนป้าต้อย เดินทางมาจุดธูปขอขมาศพ ยอมรับเสียใจ เพราะเป็นคนใกล้ตัว ร่ำไห้รู้จักตั้งแต่เด็กจนโต ขณะที่ญาติป้าต้อยไม่ติดใจ ให้อภัย พร้อมอโหสิกรรม
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ วัดนครอินทร์ ศาลา 2 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายทักษิณ อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่รถ จยย.ชน นายสมชาย หรือ ป้าต้อย ยุ่นสุ่น ที่กำลังเข็นรถขายขนมใส่ใส้ย้อนศรเสียชีวิต ได้เดินทางมากับน้องสาว เพื่อมาจุดธูปขอขมาศพป้าต้อยผู้ล่วงลับไปแล้ว พร้อมขอขมากับ นางสุทิศา ยุ่นสุ่น อายุ 52 ปี น้องสาวของป้าต้อย ซึ่งทางด้าน นางสุทิศา ก็ได้ให้อภัยกับนายทักษณ คู่กรณี เข้าใจว่า เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นายทักษิณ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขี่ จยย.ไปรับน้องสาวกลับจากที่ทำงาน ซึ่งเป็นปกติตนต้องไปรับน้องสาวทุกวัน ขณะที่ขับมาถึงตรงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและมืดมาก ก่อนที่ตนจะเลี้ยวโค้ง ตนไม่เห็นว่า มีรถเข็นย้อนศรมา ซึ่งตนไม่ได้ขับเร็ว เพราะมีน้องสาวซ้อนท้ายมาด้วย ขับประมา 40-50 กม. พอเลี้ยวโค้งออกมาตนก็เห็นป้าต้อยอยู่ข้างหน้าของรถตน ระยะห่างประมาน 4-5 เมตร ตนพยายามเบรกแล้ว แต่ไม่ทันทำให้รถชนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ในกรณีนี้ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยตนไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บที่แขน ตนต้องใส่เฝือกตลอด เอ็นฉีกข้อมือขวา ส่วนแขนข้างซ้ายเป็นแผล ตั้งแต่หัวไหล่ แขน เข่า ในระหว่างที่ตนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตนติดต่อป้าต้อยตลอดตั้งแต่ไปถึงโรงพยาบาล พยายามให้น้องไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนนทบุรี และโทร.คุยญาติป้าต้อยตลอดว่าต้องการอะไรไหม อยากได้อะไรไหม ให้ช่วยเหลืออะไรไหม ให้แจ้งมาได้เลย ตนสะดวกทุกอย่าง ซึ่งตอนที่เกิดเหตุตนไม่รู้ว่าเป็นป้าต้อย
นายทักษิณ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ตนเดินทางมาขอขมา ขอให้ป้าต้อยไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ มีความสุขมากๆ เพราะว่าตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นตราบาปในชีวิตตลอดไป เพราะตัวของตนเองรู้จักกับป้าต้อยมาตั้งแต่เด็ก เคยเรียนที่โรงเรียนวัดธินกร เห็นป้าต้อยเข็นรถขายขนมใส่ไส้ตั้งแต่ตนเด็กยันโต เวลามีงานบวชที่เป็นของญาติตน ทุกครั้งป้าต้อยจะไปทุกครั้ง ที่วัดธินการป้าต้อยจะไปแห่นาคให้ตลอด และพอเกิดเหตุนี้ขึ้นเป็นคนใกล้ตัวตนรู้สึกเสียใจมากๆ ซึ่งตนก็อยากฝากบอกคอมเมนต์ว่า ตนไม่ได้หนีไปไหน ตนแค่อยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็อยากจะกราบขอโทษญาติป้าต้อย และคนที่รักป้าต้อยทุกคน ตัวของตนเองก็เป็นคนที่รักป้าต้อยเหมือนกัน ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะตนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวขนาดนี้ พอตนได้ออกจากโรงพยาบาลตนก็รีบมาหาป้าต้อยทันที
นางสุทิศา น้องสาวต่างมารดาของป้าต้อย เล่าว่า ตนไม่ได้ติดใจอะไรกับคู่กรณี เพราะเขายังเด็ก อนาคตยังอีกไกล ตนคิดไว้แต่แรกแล้วว่ามันคืออุบัติเหตุ ตนไม่เคยไปเรียกร้องเอาอะไรกับคู่กรณี แค่อยากให้มาขมาศพเท่านั้น วันนี้คู่กรณีมาขอขมาก่อนพูดว่า "ผมเสียใจด้วยนะครับ ป้าต้อยแกดีกับผม ผมรักและเคารพ เพราะว่าที่บ้านผมบวชป้าต้อยก็ไป" ตนก็อโหสิกรรมให้ไม่ติดใจ ถ้าเป็นตัวพี่ต้อยเอง พี่ต้อยก็อโหสิกรรมให้เหมือนกัน