xs
xsm
sm
md
lg

ชูวิทย์ แฉเศรษฐา เบื้องหลัง บี้แสนสิริ ซื้อที่ดิน 1,800 ล้าน บ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ชูวิทย์ แฉเศรษฐา เบื้องหลัง บี้แสนสิริ ซื้อที่ดิน 1,800 ล้าน บ.



นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประกาศจะ “แฉเพื่อชาติ” สกัดจุดว่าที่นายกรัฐมนตรีตัวสูงๆ ในหัวข้อ “ความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์”

นายกฯ ตัวสูงๆ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนายเศรษฐา ทวีสิน เพราะ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ตัวสั้นๆ

ประสานายชูวิทย์ เรื่องจะ “แฉเพื่อชาติ” อย่างบริสุทธิ์ใจ ต้องบอกว่าลืมไปได้เลย เพราะคนๆ นี้ ก็มี “ความกะล่อนเป็นที่ประจักษ์” มาอย่างต่อเนื่อง
เหมือนที่เขาเคยประกาศว่า มหาโจรอย่างเขา ทำได้ทุกอย่าง

เวลาออกมาเคลื่อนไหวฟาดใคร ก็มักมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ “แฉไปไถไป” ที่กระทำกับวงการคนสีเทา

หรือรับงานเจ้าพ่อรถไฟฟ้า มาเขย่าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งกุมอำนาจในกระทรวงคมนาคม มาอย่างยาวนาน
ปฏิบัติการที่อ้างว่าจะมา “แฉเพื่อชาติ” ซึ่งพุ่งเป้าไปที่นายเศรษฐา ทวีสิน ก็เช่นกัน งานนี้ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ซ่อนเนียนไว้

แท้จริง เป็นแค่เรื่องความแค้นส่วนตัว ที่นายชูวิทย์ มีต่อนายเศรษฐา เหตุเพราะดันมาขัดใจ ขัดผลประโยชน์ในธุรกิจค้าขายที่ดิน

ทีมงาน “ถอนหมุดข่าว” ได้ข้อมูลปมลึกปมลับ ที่นายชูวิทย์ไม่พอใจนายเศรษฐา เป็นเรื่องที่นายชูวิทย์พยายามขายที่ดินกว่า 500 ตารางวา บริเวณด้านหลังโรงแรมเดวิส บางกอก ในซอยสุขุมวิท 24 ให้กับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เหตุเกิดประมาณกลางปี 2565

ขณะนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน ยังเป็นประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของแสนสิริ
ที่ดินผืนใหญ่ใจกลางกรุงเช่นนั้น เป็นที่ต้องการของแสนสิริอยู่ก่อนแล้ว เพราะอยากได้มาสร้างเป็นคอนโดมิเนียมขายตามถนัด

แต่การเจรจาซื้อขายที่ดินผืนดังกล่าว ไม่สามารถปิดดีลได้ เนื่องจากทางแสนสิริ ตรวจพบว่า ที่ดินของนายชูวิทย์ ยังมีปัญหาคาราคาซังทางกฎหมาย

เนื่องจากเมื่อปี 2564 นายชูวิทย์เคยเสนอขายที่ดินผืนเดียวกันนี้ ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ในราคา 2,000 ล้านบาท และบริษัทดังกล่าว ก็วางมัดจำให้นายชูวิทย์แล้ว เป็นเงิน 400 ล้านบาท

แต่บริษัทดังกล่าว ไม่ได้ชำระเงินส่วนที่เหลือ โดยมีการต่อสัญญาตกลงซื้อขายกันมาแล้วถึง 4 ครั้ง
พอถึงปี 2565 นายชูวิทย์ ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญา พร้อมกับริบเงินมัดจำ 400 ล้านบาท แล้วหันมาเจรจาขายที่ดินให้แสนสิริแทน

ตกลงราคากันได้ที่ 1,800 ล้านบาท แต่แสนสิริมีเงื่อนไขให้นายชูวิทย์ต้องปฏิบัติตาม เช่น ต้องนำเงินที่ได้จากการขายที่ดินให้แสนสิริ ไปปรับปรุงรีโนเวทโรงแรมเดวิส บางกอก เสร็จแล้วให้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด และให้ทางแสนสิริ เข้าไปบริหารโรงแรมด้วย

ส่วนที่ดิน 500 กว่าตารางวานั้น ทางแสนสิริจะก่อสร้างเป็นอาคารชุด ในชื่อ สแตนดาร์ด เรสสิเดนซ์
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญที่แสนสิริ เรียกร้องให้นายชูวิทย์ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน

คือการไปยกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน กับบริษัทเดิม ให้มีผลทางกฎหมาย ถ้ายังจัดการไม่ได้ ก็ซื้อขายกันไม่ได้ เพราะจะมีปัญหาตามมาในภายหลัง

เนื่องจากนายชูวิทย์แจ้งยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ จากบริษัทผู้ซื้อที่ดิน เท่ากับการยกเลิกสัญญา ยังไม่เสร็จเรียบร้อย 100%

อีกประเด็นก็มาจากปัญหาใบอนุญาตก่อสร้างที่ได้มา20กว่าปีแล้ว ชูวิทย์อ้างว่าต่อใบอนุญาตทุกปี แต่จริงๆแล้วจะเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เรื่องแบบนี้อาจหลอกชาวบ้านได้แต่เรื่องหลอกแสนสิริไม่ได้หรอก

หากแสนสิริ ซื้อที่ดินดังกล่าวไปในสภาพที่ยังคาราคาซังอย่างนั้น อาจเกิดข้อพิพาทที่ดิน มีปัญหาฟ้องร้องตามมาได้ แสนสิริจำเป็นต้องให้นายชูวิทย์เคลียร์ปัญหานี้ให้จบก่อน

การเจรจาระหว่างนายชูวิทย์กับแสนสิริ จึงปิดดีลไม่ลง จนมาถึงวันที่นายเศรษฐา ออกจากแสนสิริ มาเล่นการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และจะเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ในไม่กี่วันข้างหน้า

แต่ความไม่พอใจที่แสนสิริ ที่กล้าขัดใจ และวันนี้เศรษฐาลาออกทุกตำแหน่งจากบริษัทแสนสิริแล้ว นายชูวิทย์จึงเตรียมพลิกมาเป็นแคมเปญ “แฉเพื่อชาติ” แต่แท้จริงแล้วเป็นการแฉเพื่อปากท้องชูวิทย์เอง แหกตาประชาชนเหมือนทุกครั้ง

--------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น