“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2566 ตอน เปิด 3 แนวทางศาล รธน.ชี้ปมเสนอชื่อ ‘พิธา’ ซ้ำ วัดใจเลือกนายกฯ คนที่ 30
เวลานี้การเลือกนายกรัฐมนตรีและการตั้งรัฐบาลจะสำเร็จหรือไม่ ถูกฝากความหวังไว้ที่วุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ
โดยในส่วนของวุฒิสภาก็ประกาศจุดยืนชัดเจนว่ามีพรรคก้าวไกลจะไม่มีส.ว.โหวตให้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ลำบากใจ จะทิ้งพรรคก้าวไกลก็ทำไม่ได้ หรือถ้าจะหนีบพรรคก้าวไกลไปตั้งรัฐบาลด้วยก็ยากเต็มที จึงทำได้แค่การปล่อยให้พรรคก้าวไกลคิดและตัดสินในทางการเมืองเอง
ขณะที่ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นอีกองค์กรหนึ่งที่กำลังจะมีผลต่อการเมืองไทยในเวลานี้เช่นกัน ภายหลังผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่าการที่รัฐสภามีมติไม่ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213
โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมกันเพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที 3 สิงหาคมนี้
หนึ่งวันก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคม
มติของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ถูกคาดการณ์ไปใน 3 แนวทาง ได้แก่ แนวทางที่ 1 ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา โดยไม่สั่งให้รัฐสภาชะลอการประชุมในวันที่ 4 สิงหาคมออกไปก่อน ซึ่งถ้าออกหน้านี้ขึ้นมาจริง รัฐสภาก็ยังสามารถเดินหน้าประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปได้
แต่แคนดิเดทของพรรคเพื่อไทยอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่ต้องไปวัดกันในที่ประชุมรัฐสภาอีกที
แนวทางที่2 ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา โดยกำหนดให้รัฐสภาชะลอการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เท่ากับว่ารัฐสภาต้องเลื่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และรัฐสภาจะต้องนำเรื่องการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่าด้วยเรื่องการปิดสวิตซ์ส.ว.มาพิจารณาแทน
แนวทางที่ 3 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับไว้พิจารณา และจำหน่ายคำร้องดังกล่าวทิ้งทันที จะมีผลให้รัฐสภาเดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีได้ตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญต่อไป
หากพิจารณาจากความเป็นไปได้ทั้งสามทางแล้ว ปรากฏว่าหลายฝ่ายทั้งอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือนักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน ต่างมองตรงว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาและไม่ว่าสั่งชะลอการเลือกนายกรัฐมนตรีไปก่อนหรือไม่ ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในบั้นปลายจะไม่มีความแตกต่างกัน คือ ศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
ฤ โดยเพียงแค่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติในเรื่องนี้แค่ประเด็นเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่ามติของรัฐสภาที่ห้ามเสนอชื่อนายพิธาซ้ำขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ทันที เพราะในมุมมองของกฎหมายนั้นผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิในกรณีนี้มีเฉพาะนายพิธาเท่านั้น
ความเป็นไปได้ของศาลรัฐธรรมนูญมีเหตุผลรองรับอยู่พอสมควร เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยที่ 15/2565 รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีที่วุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบบุคคลเป็นตุลาการศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากเห็นว่าผู้ร้องที่ยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นเป็นผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ 213
ซึ่งหากนำคำวินิจฉัยของศาลในเรื่องนี้มาเทียบเคียงกับกรณีของนายพิธา ก็อาจเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นว่าผู้ที่มีสิทธิยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยอาศัยมาตรา 213 ได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิโดยตรงเท่านั้น ซึ่งมีเพียงนายพิธาเพียงคนเดียว ถ้าหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่ใช้มาตรา 213 ด้วยตัวเองก็เท่ากับว่าศาลรัฐธรรมนูญก็คงไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ อาจเป็นเหตุผลให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล้านัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคมทันที โดยไม่รอดูมติของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
แต่ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลการพิจารณาออกมาอย่างไร การเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ยังคงเป็นศึกหนักที่ต้องวัดใจกันต่อไป
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1