รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ "ทักษิณ" กลับไทย 3 คดีใหญ่มีดปักหลัง จับตาเงื่อนไขขออภัยโทษ
มาช้ายังดีกว่าไม่มา สำหรับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลัง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า 10 สิงหาคม จะเดินทางกลับมาถึงแผ่นดินเกิด ลงเครื่องที่สนามบินดอนเมือง
และอุ้งอุ้ง แพทองธารย้ำกลับแน่10 สิงหาคม หลังที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จอมโจรสื่อโซเชี่ยล โพสต์ทักษิณกลับลำไม่กลับไทยตามวันเวลาดังกล่าวแล้ว
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทักษิณ เคยเดินทางกลับประเทศไทยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 หลังจากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 ที่นำมาซึ่งคดีความต่างๆมากมายผ่านการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ที่ตั้งโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เพื่อตรวจสอบนายทักษิณเป็นการเฉพาะ
ในปี 2551 ทักษิณตัดสินใจกลับมาสู้คดีการซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกที่คตส.ไต่สวนและส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามกระบวนการยุติธรรมในคดี และเป็นคดีนี้เองที่ทำให้ทักษิณต้องออกจากประเทศไทยเป็นเวลานานถึง 15 ปี ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้คดีดังกล่าวจะหมดอายุความไปตามกฎหมายแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ อดีตนายกฯรายนี้จะสามารถกลับเข้าบ้านพักได้อย่างอิสระ
เนื่องจากยังต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและต้องรับโทษตามกฎหมายในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว 3 คดี ได้แก่
1.คดีการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 จำคุก 2 ปี
2.คดีการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลเมียนมา พิพากษาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 จำคุก 3 ปี
และ3.คดีการแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ พิพากษาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 จำคุก 5 ปี
รวมทั้ง3คดีมีโทษจำคุกถึง 10 ปี นั่นหมายความว่าทักษิณต้องใช้ชีวิตบางส่วนที่ประเทศไทยในเรือนจำ
ขณะเดียวกัน กระบวนการทางกฎหมายที่หลายฝ่ายจับตา คือ การขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีความน่าสนใจในสองส่วนสำคัญ ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 การดำเนินการผ่านการตราเป็นพระราชกฤษฎีกาของคณะรัฐมนตรีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 261 ทวิ วรรคสอง โดยมาตรา 11 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564
ที่ระบุถึงกรณีที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว และเป็นคนอายุตั้งแต่เจ็ดสิบปีขึ้นไปให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษลงเป็นพิเศษอีกหนึ่งในห้า และ ส่วนที่ 2.แนวทางของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 คณะรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับการอภัยโทษ โดยในรายงานระบุตอนหนึ่งว่า
นักโทษที่จะได้รับอภัยโทษ ต้องผ่านระยะปลอดภัย คือ ต้องรับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือรับโทษจำคุกมาแล้ว 8 ปีแล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน หลังจากนั้นจะมาพิจารณาเรื่องอายุ สุขภาพ การจัดชั้น เพื่อลดโทษ ยกเว้นกรณีการถวายฎีกาเฉพาะราย
ด้วยเหตุนี้ เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้อดีตนายกฯทักษิณมีสิทธิขอพระราชทานอภัยโทษตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด คือ การเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ถูกขังตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย จากนั้นถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของการนับระยะเวลาของการรับโทษและปัญหาทางสุขภาพที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการรับพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอนของกระทรวงยุติธรรมต่อไป ซึ่งปัจจุบันทักษิณในวัย 74 ปีเข้าเงื่อนไขในเรื่องของการเป็นบุคคลที่มีอายุตั้งแต่70ปีขึ้นไปแล้ว
ดังนั้น วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่จะถูกบันทึกไว้ว่า ทักษิณ ชินวัตร กลับสู่บ้านเกิดในรอบทศวรรษและเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องเดินเข้าสู่เรือนจำ หลังจากเดินทางออกจากประเทศไทยไปนานถึง 15 ปี
--------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1