xs
xsm
sm
md
lg

ทลายโกดังของเก๊ รวบ "เสี่ยเวียด" เจ้าของชาวเวียดนาม ธุรกิจ "ส่งดะ" สินค้าออนไลน์สายดาร์ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลบุกทลายโกดังของปลอม ย่านลาดกระบัง พร้อมจับกุม "เสี่ยเวียด" เจ้าของขาวเวียดนาม ทำธุรกิจ "ส่งดะ" สินค้าออนไลน์สายดาร์กไร้คุณภาพ

วันนี้ (29 ก.ค.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 ชุดสืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว MR. NGUYEN VAN VIET (เหงียน วาน เวียด) อายุ 40 ปี สัญชาติเวียดนาม หนังสือเดินทาง C7156838 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2246/2566 ลงวันที่ 14 ก.ค. 66 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับจากลูกค้า จำนวน 468 กล่อง 2.สินค้าอีกหลายรายการอาทิ เพาเวอร์แบงก์ นาฬิกาข้อมือ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องบดไฟฟ้า และมีด จำนวนประมาณ 5,000 ชิ้น

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการ "ส่งดะ" ซึ่งเป็นธุรกิจขายออนไลน์สายดาร์กที่กำลังแพร่ระบาดหนังและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในปัจจุบัน การ "ส่งดะ" ที่กล่าวถึงคือการส่งสินค้าไปตามบ้านเรือนของประชาชนแล้วให้เหล่าบริษัทขนส่งเอกชนเก็บเงินปลายทาง ทั้งที่ประชาชนคนนั้นไม่ได้มีการสั่งซื้อของแต่อย่างใด แต่อาศัยลูกมึนผลลัพธ์คือประชาชนก็จะจ่ายเงินซื้อสินค้าไปแบบมึนๆ เป็นเล่ห์กลรูปแบบใหม่ที่วิวัฒนาการเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับความเติบโตของเหล่าธุรกิจโลจิสติกส์และการขายออนไลน์ โดยชาวเสียดนามหัวใส ต่างหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้จำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่ง ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช สืบสวนขยายผลให้ถึงเหล่าต้นตอ ซึ่งได้ส่งชุด PCT5 สืบสวนจากเส้นทางของเหล่าพัสดุจนพบว่าต้นตอมาจากโกดังชาวเวียดนามรายหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งรายนี้มีการสร้างเพจเฟซบุ๊กหลายเพจ โดยด่านแรกเมื่อผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าแล้ว นอกจากจะได้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว คนร้ายยังใช้การสั่งซื้อของลูกค้าเป็นช่องทางการเก็บข้อมูล ชื่อ-ที่อยู่ เพื่อจะใช้ส่งดะต่อไปในภายหน้า โดยการสืบสวนสืบทราบว่าเจ้าของโกดังเป็น เถ้าแก่ ชาวเวียดนาม ชื่อว่า "เสี่ยเวียด" หรือ MR.NGUYEN VAN VIET (เหงียน วาน เวียด) สัญชาติเวียดนาม ซึ่งพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละไม่ต่ำกว่า 6 หลัก ซึ่งล้วนได้มาจากการทำธุรกิจนี้ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งได้ออกหมายจับ เสี่ยเวียด

ซึ่งต่อมาวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 และชุดสืบนครบาล และนักเรียนสืบสวน 110 เข้าจับกุม เสี่ยเวียด ไว้ได้ทันการขณะที่กำลังวางแผนจะหลบหนีออกนอกประเทศ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 157/70 หมู่บ้านพูนสินธานี 1 ซอย 1 ถ.พูนสิน ซ.เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง กรุงเทพฯ และจากการตรวจค้นบ้านพักที่เข้าทำการจับกุมตัวพบว่าเป็นโกดังเก็บสินค้าเพื่อรอ "ส่งดะ" ไปให้กับเหยื่อ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าภายในบ้านพบว่าเป็นของเก๊ทั้งหมด และพบพัสดุที่ถูกตีกลับมาจากการส่งดะเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้จำนวนกว่า 5,000 ชิ้น รวมมูลประมาณ 600,000 บาท (ต้นทุน)

ในชั้นจับกุม นายเหงียน วาน เวียด ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ได้มีนายทุนจากประเทศเวียดนาม ติดต่อให้ตนเองทำธุรกิจประเภทนี้ในประเทศไทย ตนเองจึงมาลงหลักปักฐานทำธุรกิจประเภทนี้ในประเทศไทย โดยเริ่มทำมาตั้งแต่เมื่อกลางปี 65 ส่วนเรื่องของผิดกฎหมายหรือที่มาของสินค้าตนไม่ขอให้การใดๆ นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผู้ทำธุรกิจประเภทนี้จะเริ่มจากจากการขายสินค้าทางออนไลน์ โดยเป็นสินค้าประเภทคุณภาพต่ำ ไม่ตรงปก ไม่มี อย. หรือ มอก. และเมื่อขายไม่ออกหรือถูกตีกลับมาแล้ว ก็จะนำมา "ส่งดะ" ไปให้กับเหล่าลูกค้าเดิมที่อยู่ในฐานข้อมูลลูกค้าเก่าอีกครั้ง ทั้งที่เค้าไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด โดยเหล่าธุรกิจพวกนี้สร้างความเดือดร้อนประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งประชาชนจะแจ้งความไว้ตาม สน./สภ. และแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความเสียหายเป็นจำนวนเล็กน้อย ซึ่งผู้เสียหายบางราย เห็นว่าเป็นเงินไม่มากจะไม่มาแจ้งความร้องทุกข์ อันทำให้อาชญากรรมประเภทนี้ไม่อาจหมดไปจากสังคมไทย ซึ่งวันนี้เรากำลังไล่กำจัดต้นตอของปัญหาเหล่านี้ แม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.




กำลังโหลดความคิดเห็น