"กัน จอมพลัง" พาพ่อและลูกสาววัย 15 ปี แจ้งความตำรวจ สน.แสมดำ เอาผิด จนท.เทศกิจเขตบางบอน กิ๊กใหม่ของแม่ หลังลวนลามขืนใจ อีกทั้งแม่ยังช่วยปกป้องฝ่ายชาย เพราะเชื่อเป็นคนดีและกลัวถูกไล่ออกจากงาน
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ สน.แสมดำ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย พร้อม นายอรรถพล อายุ 35 ปี บิดา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ข้าราชการเทศกิจ สำนักงานเขตบางบอน หลังก่อเหตุลวนลามล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว
นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า นายอภิชาติ ซึ่งเป็นกิ๊กของแม่ อายุ 53 ปี เป็นข้าราชการในสำนักงานเขตบางบอน ลวนลามมาหลายครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูกล่วงละเมิดทางเพศจนทนไม่ได้ต้องแจ้งพ่อแท้ๆ ให้ทราบ ก่อนที่พ่อจะประสานมาที่ตนเพื่อให้พาเข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ
ทั้งนี้จากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่าแม่แท้ๆ ไม่ปกป้องลูก ซ้ำยังบอกอีกว่า อีกฝ่ายชายเป็นคนดี หากมีการแจ้งความดำเนินคดีจะส่งผลให้กิ๊กถูกไล่ออกจากงานอีกด้วย ซึ่งเด็กสาวผู้เสียหายเคยบอกแม่หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ สุดท้ายจึงต้องบอกพ่อเพราะทนพฤติกรรมต่อไปไม่ไหว
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า มีลูกสาวสองคน คนโตอายุ 15 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 13 ปี กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนเลิกรากับแม่เด็ก และพาลูกสาวคนเล็กไปอยู่กับน้องสาว ส่วนลูกสาวคนโตไปอยู่กับแม่ ซึ่งนายอภิชาติทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจประจำเขตบางบอน รู้จักกับแม่เด็กในที่ทำงานซึ่งตนก็เคยทำงานที่เขตนี้มาก่อน จึงเป็นคนรู้กัน ก่อนที่นายอภิชาติและแม่เด็กจะมีความสัมพันธ์กัน หลังจากที่เลิกรากันไป
นายอรรถพลกล่าวว่า จากนั้นนายอภิชาติได้ใช้สิทธิข้าราชการเปิดแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เพื่อให้แม่และเด็กอยู่อาศัย แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสนายอภิชาติจะลวนลาม จับเนื้อต้องตัว หอมแก้มเด็กเป็นประจำ เมื่อลูกสาวมาแจ้งเรื่องให้ทราบก็ได้บอกว่าให้บอกกับแม่ แต่ลูกสาวบอกว่าเคยแจ้งแล้วแต่แม่ไม่เชื่อ จนกระทั่งครั้งล่าสุดลูกสาวส่งข้อความทางไลน์มาบอกว่าถูกนายอภิชาติล่วงละเมิดทางเพศ และแคปข้อความแชตที่คุยกับแม่มาให้ดู ซึ่งแม่ตอบปกป้องอีกฝ่ายว่าเป็นคนดี ไม่ทางที่จะทำพฤติกรรมแบบนั้น และกลัวไม่มีที่อยู่ จึงส่งเรื่องมาขอความช่วยเหลือที่กัน จอมพลัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความที่ สน.แสมดำ
นายอรรถพลกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุนายอภิชาติโทรเข้ามาขอเคลียร์ปัญหาเนื่องจากไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต กลัวโดนไล่ออกจากงาน และเสนอเงินค่าไกล่เกลี่ย 500,000 บาท แต่ตนไม่รับ เนื่องจากอนาคตของลูกสำคัญกว่า ทั้งนี้ อยากให้ผู้ก่อเหตุไปชดใช้กรรมและยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
