ปอศ.ลุยค้น 5 จังหวัด รวบ 10 สมาชิกแก๊งหลอกเทรดหุ้นออนไลน์ เผยโอนเงินที่โกงอย่างรวดเร็วหลายชั้น พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 800 ล้านบาท
วันนี้ ( 27 ก.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ บก.ปอศ. พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายกิตติพล กลมเกลียว อายุ 33 ปี พร้อมพวกรวม 10 คน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2323-2337/2566 ลง 20 ก.ค. 66 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” หลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ , สุพรรณบุรี, อุทัยธานี, นครสวรรค์ และ จ.กระบี่
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวว่า ก่อนหน้าผู้เสียหายหลายรายเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ปอศ. หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างบริษัทชื่อดังประกอบธุรกิจให้คําปรึกษาการลงทุน มาชักชวนผ่านเฟซบุ๊กร่วมลงทุนเทรดหุ้น อ้างมีผลตอบแทนสูง โดยหลอกล่อเหยื่อให้ทดลองเทรดด้วยเงินจํานวนน้อยๆ ก่อน ซึ่งช่วงแรกๆ ทำทีให้เหยื่อสามารถถอนผลกำไรออกมาได้จริง เพื่อให้ตายใจ แต่เมื่อเหยื่อเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อประสงค์จะถอนเงินพร้อมผลกำไรออกมาปรากฎว่าจะไม่สามารถถอนได้
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวต่อว่า จากนั้น
กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้อุบายให้โอนเงินมาเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ ทําให้ผู้เสียหายที่อยากจะได้เงินคืน ต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ปิดการติดต่อทุกช่องทาง ซึ่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งเสียเงินถึง 4 ล้านบาท จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะใช้วิธีการโอนเงินต่อไปเรื่อยๆ หลายชั้นและรวดเร็ว จนยากต่อการติดตาม จนไปพบว่ามีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องถึง 18 บัญชี มีเงินหมุนรวม 800 ล้านบาท โดยพบหลักฐานมีกลุ่มผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 16 ราย ซึ่งแต่ละรายมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีกเป็นจํานวนมาก และยังหลบหนีอยู่อีกด้วย
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนให้รู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในยุคนี้ ทุกคนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น ทําให้กลุ่มผู้ต้องหาเห็นช่องทางในการหลอกลวงเพิ่มมากขึ้นโดยใช้ผลตอบแทนที่สูงเกินจริงมาหลอกล่อ จนมีผู้หลงเชื่อเข้าไปทดลอง บางรายถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว บางรายก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนที่ไม่มีทางเป็นจริงได้
