xs
xsm
sm
md
lg

ศาลไต่สวนมูลฟ้อง คดี “แอม ไซยาไนด์” ฟ้องหมิ่น “ระพี” นัดฟังคำสั่ง 5 ก.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ (แฟ้มภาพ)
ศาลอาญา ไต่สวนมูลฟ้อง คดี “แอม ไซยาไนด์” ฟ้องหมิ่น “ระพี” ผู้ประสานงานครอบครัวเหยื่อ ศาลนัดฟังคำสั่ง 5 ก.ย.นี้

วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น. ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง คดี น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ เป็นโจทก์ฟ้อง นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานผู้เสียหายคดีแอมไซยาไนด์ เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

กรณีที่ นายระพี ไปออกรายการโทรทัศน์ แห่งหนึ่ง

โดยฝ่ายโจทก์มี ทนายพัช ที่ได้ประกันตัวมาทำหน้าที่ถามพยาน ส่วนจำเลยมี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นทนายให้

ปรากฏว่า ศาลได้เบิกตัว น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม มาในชุดนักโทษจากทัณฑสถานหญิง มาเบิกความ ซึ่งแอมมีสภาพทั่วไปปกติย้อมผมสีทอง แม้จะตัวเล็กลงบ้างแต่ดูไม่ผอม มี พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรอง ผกก.สอบสวน สภ.เมือง กาญจนบุรี มานั่งฟังในห้องพิจารณา


ทนายความโจทก์นำ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม พนมมือสาบานว่าจะเบิกความตามจริง โดยแอมสาบานอย่างไม่สะทกสะท้าน โดยฝ่าย นางทองพิน เกียรติชนะศิริ แม่ของ น.ส.ก้อย ผู้ตายได้จ้องหน้าแอมชนิดตาไม่กะพริบตั้งแต่แอมเข้ามาในห้องพิจารณา แต่แอมไม่สบตาด้วย

ต่อมา น.ส.สรารัตน์ เบิกความตอบคำถามทนายโจทก์และคำซักค้านของทนายจำเลย ทำนองว่า นายระพี ได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ส่งผลกระทบให้ตนถูกจับดำเนินคดีฆ่า น.ส.ก้อย และถูกออกหมายจับดำเนินคดีอีก 14 สำนวน ทั้งที่ตนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 29 และมาตรา 241 วรรคสาม ที่มีหลักการว่า ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา จำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำผิด

น.ส.สรารัตน์ เบิกความว่า ระหว่างถูกขัง ได้แท้งลูกและเป็นหนี้ค่ารักษาพยาบาล ตอนนี้ก็เป็นแผลจากการผ่าตัดคลอด จากนั้นแอมพยายามเบิกความถึงเรื่องส่วนตัวของนายรพี แต่ศาลเตือนว่าไม่เกี่ยวกับคดีนี้ การกระทำของจำเลยส่งผลให้ตนได้รับความเสียหาย

จากนั้น นายเดชา ได้ซักค้านว่า ขณะนี้ทางอัยการก็ได้ฟ้อง น.ส.สรารัตน์ หรือแอมกับพวกเป็นจำเลยแล้วและยังมีหมายจับคดีอื่นๆ อีก 14 เรื่องไปแล้ว จากนั้น น.ส.ธันย์นิช เกสุวรรณรัตน์ หรือ ทนายพัช ได้นำพยานปากอื่นเบิกความสอดคล้องกับแอม

นายเดชา ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมา น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม พูดไม่ตรงกับความจริงหลายครั้ง มีการกลับคำให้การไปมา และดูเหมือนจะหวาดกลัวกับการรับความจริง แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่ตำรวจได้นำมาสอบสวนอยู่ในสำนวนคดี จึงไม่ทราบว่าทำไมแอมถึงคิดต่อสู่คดี โดยคดีนี้ถือว่าไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่ง ในวันที่ 5 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.

ส่วนการที่จะขอเป็นโจทก์ร่วมของพ่อและแม่ น.ส.ก้อย ในคดีที่ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ถูกฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ศาลได้นั้นตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ และมั่นใจว่า มีพยานหลักฐานที่แน่นหนา และศาลสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้

ส่วนแม่ของศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย กล่าวว่า ในระหว่างที่ฟังแม่ของ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม เบิกความต่อศาล บอกว่า แอมเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่คิดทำร้ายผู้อื่นนั้น เห็นว่า ขัดแย้งกับพฤติการณ์ของแอม และมั่นใจว่า แอมเป็นคนทำร้ายลูกสาวของตัวเอง ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้ซักค้านในคำให้การของฝ่ายโจทก์ แต่ก็ขอให้เวรกรรมมีจริง ส่วน แอม ที่เห็นในห้องพิจารณาคดี ก็พบว่ามีลักษณะซูบผอม ตัวเล็กลง
กำลังโหลดความคิดเห็น