นักเรียน ม.2 โรงเรียนอาษาวิทยา ชวนเพื่อนขี่ จยย.เล่นยามดึก ถูกอริถีบรถไถลชนฟุตปาทฟาดราวเหล็กกั้นขอบถนน เสียชีวิต ส่วนเพื่อนซ้อนท้ายวัย 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ร.ต.ท.ธนโชติ จันทร์ป๋า รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุ จยย.ล้มชนฟุตปาทเสียชีวิต ใกล้ปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 35/1 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนขาออกมุ่งหน้าดาวคะนอง พบศพ นายภูริ ปิ่นยาโมน อายุ 15 ปี เป็นนักเรียน ชั้น ม.2/2 ของโรงเรียนอาษาวิทยา ย่านพระประแดง สภาพนอนตะแคงซ้าย ใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำ ทับด้วยเสื้อเชิ้ดสีขาวแขนยาว พับขึ้นมาถึงข้อศอก หลังเสื้อกรีนคำว่า “อาษาวิทยา” กางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำ มีหัวเข็มขัดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มีแผลฉกรรจ์ที่หน้าผากและตาซ้าย เนื่องจากไปฟาดกับราวเหล็กกั้นขอบถนน ใกล้กันพบ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีดำ ทะเบียน 1 กท 3218 ระยอง สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน นอกจากนี้ ยังมีคนซ้อนท้ายทราบชื่อ ด.ช.ชนะชัย เลื่อนรัศมี อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามร่างกาย กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์
ด.ช.ณัฐวุฒิ สุขา อายุ 12 ปี ชั้น ม.1/2 โรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า กล่าวว่า พวกตนเป็นเพื่อนกันอยู่ละแวกเดียวกัน ย่านพระประแดง ชวนกันไปนั่งเล่นสะพานพุทธ มากัน 4 คัน 8 คน ระหว่างทางมีเพื่อนคนหนึ่งอยากจะกลับบ้าน แต่ผู้ตายบอกว่า มาแล้วก็ไปให้สุด จากนั้นเมื่อถึงแยกสาทร ได้เจอกลุ่ม จยย.ติดไฟแดงอยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งหมด 4 คัน 12 คน ได้บีบแตรแล้วควักมือเรียกพวกตน คิดว่า ท่าไม่ดีจึงขับรถเลี้ยวกลับมาทางแยกไฟแดงมไหสวรรค์ กลุ่ม จยย.ดังกล่าวได้ขับตามทันผู้ตาย เนื่องจาก จยย.ผู้ตายใส่เกียร์ได้แค่ 3 เกียร์ จึงขับช้ากว่าคนอื่น เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนชักมีดดาบออกมาพยายามฟัน แต่กลับถูกถีบจนรถล้ม จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถวนกลับมาหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนขับหนีไป ซึ่งพวกตนไม่รู้จักและไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน
ร.ต.ท.ธนโชติ กล่าวว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และดูเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายและจะประสานสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำกลุ่มเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ.จุฬาฯ ก่อนมอบผู้เสียชีวิตให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป