MGR Online - ก.ตร. อนุมัติกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดูแลงานด้านแพทย์ เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง กำหนดตำแหน่งตำรวจตามกลุ่มสายงานตามพ.ร.บ.ตำรวจใหม่ และร่างข้อกำหนดในการแต่งตั้งตำรวจ
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 7/2566 โดยใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมวันนี้ มีวาระสำคัญ 3 เรื่อง ดังนี้ 1.การกำหนดสายงานตามกลุ่มสายงาน การกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจตามกลุ่มสายงาน และการกำหนดมาตรฐานกำหนดตำแหน่งตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 โดยจัดให้ข้าราชการตำรวจมีสายงาน 5 กลุ่ม คือ 1.สายงานบริหาร 2.สายงานอำนวยการและสนับสนุน 3.สายงานสืบสวนสอบสวน 4.สายงานป้องกันปราบปราม 5.สายงานวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องจัดสายงานของตำรวจจำนวนทั้งสิ้น 308,327 ตำแหน่ง ตามกลุ่มสายงานโดยยึดหลักการในการจัดตำแหน่งเข้ากลุ่มสายงาน มีการทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง โดยให้ยึดหลักกฎหมาย ลักษณะงานที่รับผิดชอบ เส้นทางการเจริญเติบโต สัดส่วนของตำแหน่งในหน่วยงานเดียวกัน กลุ่มงานสายงานวิชาชีพเฉพาะต้องเป็นงานที่จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีคุณวุฒิเฉพาะ ปรับจากมาตรฐานกำหนดตำแหน่งและสายงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้สามารถใช้ได้ทันในการแต่งตั้งวาระปี พ.ศ.2566 นี้
2.การกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. (บริหารด้านการแพทย์) สืบเนื่องจากเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ งานนโยบายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างสุขภาวะของข้าราชการตำรวจ ซึ่งปัจจุบันในเรื่องของข้าราชการตำรวจมีความเครียด เรื่องสุขภาพจิตและมีปัญหาสุขภาพจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้ผู้บังคับบัญชาที่สามารถสั่งการได้ในระดับตร. จึงมีความจำเป็นต้องมีการเปิดตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. ในสายบริหารด้านการแพทย์ ซึ่งที่ประชุมมีมติอนุมัติการกำหนดตำแหน่งตามที่เสนอ
โฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ 3.สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาร่างข้อกำหนด ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันทีในการแต่งตั้งตามวาระประจำปี 2566 และเป็นการแต่งตั้งที่จะขออนุมัติใช้ร่างข้อกำหนดก.ตร.นี้ โดยมีสาระสำคัญในเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้าย จะมีเรื่องของการร่างข้อกำหนดเรื่องของหลักเกณฑ์การจัดลำดับอาวุโสหลักการในการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหลักการในการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนของข้าราชการตำรวจ ซึ่งทั้งหมดนี้ทาง ผบ.ตร. ให้มีการประเมินในเรื่องของการกำหนดตำแหน่งตามสายงานต่างๆ ว่าจะมีปัญหาหรือมีข้อขัดข้องเพื่อมาพิจารณาและเข้าที่ประชุมอีกครั้งในเรื่องของการประเมินการกำหนดตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งข้อกำหนดที่จะใช้ในการแต่งตั้งในครั้งนี้จะเป็นข้อกำหนดที่อ้างอิงหลักเกณฑ์ในเรื่องของกฎก.ตร.เดิมบางส่วนที่ไม่ขัดแย้งกับพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบหลักการเพิ่มเติมตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวด้วยว่า ในส่วนสาระสำคัญเรื่องข้อกำหนดในกรณีที่มีข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการลงมาที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนและเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นโดยที่ได้รับการแต่งตั้งออกไปนอกหน่วยโดยไม่สมัครใจ ก่อนข้อกำหนด ก.ตร. ฉบับนี้ใช้บังคับ หากประสงค์ขอรับการแต่งตั้งกลับต้นสังกัดหรือสังกัดเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ยื่นคำร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติผ่านสำนักงานกำลังพล และจะมีคณะทำงานที่รองผบ.ตร.ในสายบริหารเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อพิจารณาคำร้องเสนอต่อผบ.ตร. ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้โดยไม่กระทบกับสถานภาพกำลังพลของหน่วย เพื่อที่จะให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งดำเนินการตามกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป