"กัน จอมพลัง" พาสาวผู้เสียหายกรณีอดีตเพื่อนกับพวกบุกคอนโดรุมทำร้ายร่างกาย มาติดตามคดีที่ สน.ห้วยขวาง หลังแจ้งความผ่านไปแล้ว 1 เดือน คดียังไม่คืบหน้า
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ สน.ห้วยขวาง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พา หญิงสาว อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย มาตามคดีกรณีที่อดีตเพื่อน บุกไปทำร้ายร่างกาย ที่ห้อง โดยการ เอาขวดน้ำหอม ทุบหน้าหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ จมูกแตก ซิลิโคนเบี้ยว รอยช้ำเต็มหน้า และทำลายข้าวของที่ห้อง พังเสียหาย เพียงเพราะผู้ชายที่คู่กรณีคุยด้วยทักแชทมาชวนไปเที่ยว แต่ตนเองก็ได้ปฏิเสธไป โดยหลังจากที่ได้แจ้งความไปแล้ว 1 เดือน แต่ยังไม่ได้รับความคืบหน้าทางคดี
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ผู้เสียหายแจ้งความไปแล้ว 1 เดือน ทางผู้เสียหายยัง ไม่ได้รับการติดต่อจากทางตำรวจว่าคดีไปถึงไหนแล้ว และทางคู่กรณีของผู้เสียหาย ยังติดต่อมาตลอด ทางผู้เสียหาย กลัวว่า จะโดนทำร้ายร่างกายอีกครั้ง และอาศัยอยู่คนเดียว ทำให้หวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแจ้งความไปก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งสิ่งที่คู่กรณีทำค่อนข้างที่จะร้ายแรง และคู่กรณีเป็นเพื่อนกันด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ อยากจะบอกไปถึงคู่กรณีว่า สิ่งที่ทำลงไปให้คิดดีๆ และคู่กรณีก็เป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย ส่วนระบบความปลอดภัยของทางคอนโด ควรระมัดระวังให้มากกว่านี้ ถึงจะเป็นคนที่รู้จักกัน ก็ไม่ควรเปิดให้ใครขึ้นไปบนห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง
ด้านหญิงสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองเมาหลับอยู่ในห้อง มารู้ตัวอีกทีคือโดนขวดน้ำหอมทุบหน้า พอตื่นขึ้นมา ก็พยายามที่จะต่อสู้ ปกป้องตัวเองแต่ก็สู้ไม่ได้ โดนล็อคแขนไว้ เพราะฝั่งคู่กรณีเขามี 3 คน สู้ไม่ไหว เลยรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วคู่กรณีก็พังห้อง คู่กรณี มี ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน และตนก็รู้จักกับคู่กรณี ได้ 5 เดือนแล้วจากที่ทำงาน แล้วก็บอกคู่กรณีไปแล้ว ว่าไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายของคู่กรณี แล้วก็ตัดเพื่อนกันไปแล้ว แต่ไม่รู้คิดอะไรถึงได้มาทำร้ายตน
ซึ่งทางคู่กรณีกับผู้ชาย เป็นแค่คนคุยกัน แต่ไม่คิดว่า จะหึงหวง ถึงขั้นมาทำร้ายตนเอง และทางคู่กรณีก็ได้ขู่ว่า ไปแจ้งความเลยไม่กลัว และอ้างว่าพี่ชายตนเองเป็นผู้กำกับ และแจ้งตำรวจไปคดีก็ไม่คืบหน้าเลย ทั้งที่มาสอบปากคำ มาส่งใบรับรองแพทย์หลายรอบแล้วก็ยังไม่เรียกมาสักที และยืนยันว่า ผู้ชายของคู่กรณีไม่ได้คบ และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ทางผู้ชายก็ได้แชทมาขอโทษ แล้วว่า ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องนี้ หลังจากนั้นถ้าก็ไม่ได้คุยกับผู้ชายคนดังกล่าวอีกเลย
ขณะที่ พ.ต.อ ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า สาเหตุที่ คดียังไม่คืบหน้า เพราะต้องรอผลชันสูตร จากโรงพยาบาล และทาง ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังติดตามคดีตลอด และได้ออกหมายจับ คู่กรณีทั้ง 3 คน มา ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว และที่บอกว่า คู่กรณีมีพี่ชายเป็นผู้กำกับ นั้น ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนเดิมไม่มีข้อยกเว้นใดๆ