xs
xsm
sm
md
lg

พลายศักดิ์ฯ กลับบ้าน ทักษิณ คนแดนไกลจะกลับปลาย ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ พลายศักดิ์ฯ กลับบ้าน ทักษิณ คนแดนไกล
จะกลับปลาย ก.ค.นี้



ในที่สุด “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างไทยอายุ 30 ปี ซึ่งเป็นทูตสันถวไมตรีที่ประเทศไทยส่งไปยังประเทศศรีลังกาเพื่ออัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” พระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในงานแห่พระธาตุเมื่อปี 2544 รวมเวลาในการทำหน้าที่ดังกล่าวนานถึง 22 ปี

ได้เดินทางกลับมาถึงแผ่นดินเกิด
เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาโดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางความปิติยินดีของคนไทยจำนวนมากที่ติดตามข่าวมาโดยตลอด

ทั้งนี้พลายศักดิ์สุรินทร์นับเป็นช้างที่มีลักษณะตรงตาม “คชลักษณ์” หรือรูปพรรณของช้างสมบูรณ์สง่างามทุกประการ โดยเฉพาะงาทั้งคู่ที่มีความยาวถึง 50 เซนติเมตร และโค้งงอนขึ้นอย่างสวยงาม มองเห็นเด่นชัดจนอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของช้างเชือกนี้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม (เวลาท้องถิ่นกรุงโคลัมโบ) เที่ยวบินพิเศษโดยเครื่องบินพานิชย์แบบอิลยูชิน IL-76 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สร้างในรัสเซียให้นำพลายศักดิ์สุรินทร์พร้อมด้วยคณะสัตว์แพทย์และควาญช้างออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติ Bandaranaike กรุงโคลัมโบ มุ่งหน้ายังท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีนายพจน์ หาญพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ดูแลประสานงานในพื้นที่ร่วมกับคณะจากประเทศไทยและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของศรีลังกาในทุกขั้นตอน

หลังใช้เวลาเดินทางกว่า 5 ชั่วโมง เครื่องบินพานิชย์ขนส่งได้นำพลายศักดิ์สุรินทร์ลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ส่วนของอาคารคลังสินค้า เจ้าหน้าที่นำรถพ่วงหัวลากไปรับที่บริเวณท้ายเครื่องบิน เคลื่อนตู้เหล็กบรรทุกช้างบริเวณด้านข้างมีรูปวาดพลายศักดิ์สุรินทร์และเจาะระบายอากาศทุกด้านมาไว้ที่ส่วนท้ายหัวลาก

ขณะนั้นพลายศักดิ์สุรินทร์ร้องเรียกเสียงดังออกมาเป็นระยะ ควาญช้างคอยให้อาหาร โดยมีนายวราวุธ ศิลปะอาชา รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และนาย จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ คนบริหารงานอยู่เบื้องหลัง ร่วมให้การต้อนรับ โดยนำสายยางดับเพลิงเปิดน้ำให้ช้างกิน พร้อมกับฉีดน้ำเป็นละอองไปทั่วตู้ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปที่สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งจะใช้เป็นที่ดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์ต่อไป

เป็นที่รับรู้กันมาช้านานว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมาแต่ครั้งโบราณกาล ถือเป็น “คชสารคู่บารมี” ของพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะในยามศึกสงคราม พระมหากษัตริย์จะทรงประทับอยู่บนหลังช้างศึกเพื่อเข้าต่อสู้กับข้าศึกที่มารุกราน

ดังเหตุการณ์สำคัญที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนรเรศวรมหาราชทรงประทับบนหลังช้างเข้ากระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาที่ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุทธยาจนได้รับชัยชนะ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อครั้งปราบปรามชุมนุมต่าง ๆ หลังเสียกรุงครั้งที่สอง ทรงไสช้างเข้าพังประตูเมืองจันทบุรีจนได้รับชัยชนะและใช้เมืองจันทบุรีเป็นที่สร้างสมกำลังทางเรือก่อนจะนำทัพย้อนกลับมาขับไล่พม่าที่ค่ายโพสามต้น กอบกู้เอกราชกลับคืนมาแล้วสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่แทนกรุงศรีอยุทยาที่ได้รับความเสียหายจนไม่อาจฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาได้อีก

ช้างจึงเป็น “สัตว์ใหญ่” ที่คนไทยให้ความนับถือ ถึงขนาดมีความเชื่อว่าการลอดท้องช้างจะนำมาซึ่งโชคดีและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

การกลับสู่บ้านเกิดของพลายศักดิ์สุรินทร์อาจทำให้ “ใครบางคน” นึกถึงเรื่องราวของตนเองซึ่งต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานถึง 13 ปี หลังถูกโค่นอำนาจและความผิดต่าง ๆ ที่เคยกระทำไว้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา

ใครคนนั้นก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังคงชักใยบงการพรรคเพื่อไทยมาจากแดนไกลและเคยประกาศมาแล้วหลายครั้งว่า “จะกลับบ้าน” แต่คำประกาศนั้นก็ไม่เคยสัมฤทธิ์ผล

ทั้งที่ในความเป็นจริง นายทักษิณสามารถเดินทางกลับมาเมืองไทยได้ทุกเวลา เพียงแต่เมื่อใดที่เหยียบพื้น ภาพที่เคยก้มลงกราบแผ่นดินที่สนามบินหลัง “ปฏิวัติเสียของ” สิ้นสุดลง และพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2552 ไม่มีวันจะเกิดขึ้นอีก

เพราะนายทักษิณจะต้องถูกจับกุมและส่งตัวเข้าเรือนจำในทันที เนื่องจากคดีความต่าง ๆ ที่ถูกฟ้องร้องในยุครัฐบาล คสช. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นนายกฯ สิ้นสุดลงแล้วอย่างเด็ดขาด ไม่อาจรื้อฟื้นขึ้นมาต่อสู้หรือขอความเป็นธรรมใด ๆ ได้อีก

ข่าวล่าสุดว่า ทักษิณกำหนดจะเดินทางกลับไทยในวันที่22 กรกฎาคมนี้ ก็ไม่แน่ว่าจะะเปลี่ยนใจอีกหรือไม่ เพราะลูกเมียทักษิณส่งเสียงทัก ค้าน ไม่อยากให้กลับในเวลานี้ กลัวโดนหลอก มาติดคุกหัวโต!

-------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น