xs
xsm
sm
md
lg

"รองโจ๊ก" ไม่คิดฟ้องกลับ "อัจฉริยะ" เพราะถือว่าช่วยตรวจสอบตำรวจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



"บิ๊กโจ๊ก" เผยจับเครือข่ายรีดเงินเว็บพนัน140 ล้านเพิ่มอีก 1 ราย ยันไม่ฟ้องกลับ "อัจฉริยะ" เพราะมองเป็นเรื่องของการตรวจสอบตำรวจ

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีอดีตที่ผู้บังคับการจังหวัดชลบุรีเรียกเงินเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาทว่า ช่วงเช้าวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นพลเรือนได้เพิ่มอีกหนึ่งราย เป็นชุดเดียวกันกับ น.ส.โบว์ที่ถูกตำรวจ สภ. คูคต ควบคุมตัวไปเมื่อวานนี้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องในคดีเกี่ยวกับเรื่องของเงิน ขณะนี้ทราบเส้นทางการเงินทั้งหมดแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนวงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่ออธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน โดยอ้างว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติปราบปรามการทรมานฯ หรือพ.ร.บ.อุ้มหายฯ รวมทั้งมีการร้องเรียนว่าเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์นั้น ยืนยันว่าตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชา จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด หากพบพยานหลักฐานชัดเจนก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน

“ส่วนตัวไม่มองว่านายอัจฉริยะเป็นคู่ขัดแย้ง แต่มองว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบการทำงานของตำรวจในยุคปัจจุบันและเรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจตรวจสอบตำรวจ หากมีการตรวจสอบการทำหน้าที่ก็สามารถตอบคำถามได้หมดเพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องร้องกลับนายอัจฉริยะแน่นอน" รอง ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจสอบการทำหน้าที่ของชุดปฏิบัติการที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้อง ไม่มีการข่มขู่หรือกระทำการใดที่เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติอุ้มหาย ส่วนการจับกุมผู้ต้องหานั้นก็เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายซึ่งภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น นายอัจฉริยะ ก็ได้โทรศัพท์หาตนเองและแจ้งว่าจะขอประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งตนเองก็อนุญาตให้ประกันตัวตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น