xs
xsm
sm
md
lg

“สุนันท์” เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบอัยการ ปมเซ็นรับรองให้ “ชญานี” ยื่นฎีกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกคำร้องในส่วนแพ่งคดีที่อัยการเป็นโจทก์ “ชญานี” เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องหมิ่น “สุนันท์”เตรียมยื่น ป.ป.ช. สอบอัยการ ปมเซ็นรับรองให้โจทก์ร่วมยื่นฎีกา

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลฎีกา คดีที่ น.ส.ชญานี โปรขันเงิน และนายชยันต์ อัคราทิตย์ อดีตผู้บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียเวลท์ จำกัด เป็นโจทก์ร่วมกับอัยการยื่นฟ้องนายสุนันท์ ศรีจันทรา เจ้าของคอลัมน์ชุมชนคนหุ้น หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360องศา ในความผิดฐานหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง

ข้อความในคอลัมน์ชุมชนคนหุ้น หัวข้อ “เอเชียเวลท์” ประกาศสงคราม(1), หัวข้อ “เอเชียเวลท์” ประกาศสงคราม(จบ), หัวข้อ โบรกเกอร์มาเฟีย(1), หัวข้อ โบรกเกอร์มาเฟีย(จบ)

นายสุนันท์ให้การต่อสู้คดีว่า บทความตามคำฟ้องเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานโจทก์ร่วมทั้งสอง ซึ่งเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นตัวแทนของสมาชิกในการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน เป็นผู้ให้คำแนะนำการลงทุนแก่ประชาชนทั่วไป โดยบุคคลที่จะเป็นบุคลากรในตลาดทุนได้นั้นต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ไว้ใจของประชาชน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเขียนข่าวรายงานข้อเท็จจริงที่โจทก์ร่วมทั้งสอง ถูก ก.ล.ต.ลงโทษ สั่งพักใบอนุญาตการเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 1 ปี มีเจตนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้บุคคลทั่วไปและผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้รับทราบกฎหมาย ก.ล.ต. ถือได้ว่าจำเลยรายงานข้อเท็จจริงตรงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง นับว่ามีเหตุผลสมควรและสอดคล้องกัน จึงไม่มีลักษณะเป็นการใส่ความให้โจทก์ร่วมทั้งสองเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังแต่อย่างใด พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้โดยปราศจากความสงสัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามที่โจทก์กล่าวอ้าง

โจทก์ร่วมทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหาย ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น โดยศาลฎีกาพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องนายสุนันท์

นางสาวชญานียังมีคดีฟ้องนายสุนันท์ในความผิดหมิ่นประมาทอีก 2 คดี โดยคดีอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาลและอีกคดีแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ทุ่งมหาเมฆ

นายสุนันท์เปิดเผยว่า จะยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้สอบสวนพฤติกรรมอัยการ ซึ่งเซ็นรับรองให้โจทก์ร่วมหรือนางสาวชญานีและนายชยันต์ยื่นฎีกา แต่อัยการไม่ได้ยื่นฎีกา สะท้อนให้เห็นว่า อัยการไม่ได้ติดใจในข้อเท็จจริงของคดี แต่กลับเซ็นรับรองให้โจทก์ร่วมยื่นฎีกา อันเป็นการใช้ดุลพินิจในเรื่องเดียวที่ขัดแย้งกันเอง

“พฤติกรรมของอัยการที่เซ็นรับรองให้โจทก์ร่วมยื่นฎีกา เข้าข่ายการละเว้นหรือเลือกปฏิบัติ ตามความผิดมาตรา 157 หรือไม่ จึงจะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบสวนความผิด เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง ” นายสุนันท์กล่าว

นายสุนันท์กล่าวอีกว่า คดีนี้ตั้งแต่ขั้นตอนการสืบพยานแล้ว อัยการใช้เวลาซักถามจำเลยเป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งนานมากสำหรับการสืบพยานในคดีหมิ่นประมาท


กำลังโหลดความคิดเห็น