MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผย เรียกพยานเกี่ยวข้องให้ปากคำคดีพิเศษหุ้น STARK คาดสองสัปดาห์ทราบตัวผู้ทำผิด สั่งอายัดทรัพย์แล้ว 100 ล้านบาท
วันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมลอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “STARK” ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และเร่งติดตามทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 35,000 - 50,000 ล้านบาท และคาดว่ามีความเป็นไปได้จะทะยานไปสู่ 100,000 ล้านบาท
พ.ต.ต.สุริยา เผยว่า ที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนได้เชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายรายเข้าให้ปากคำในฐานะพยานบ้างแล้ว อาทิ กรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกรรมการชุดเก่าและชุดใหม่ใน 4 บริษัทสำคัญ เนื่องจากพบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำบัญชี และมีส่วนเกี่ยวข้องในบทบาทของการตัดสินใจ การเซ็นอนุมัติต่างๆ แต่ว่าจะรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น ต้องมีการสอบปากคำให้ครบถ้วนในทุกประเด็น และดูพยานหลักฐานเอกสารประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของคำให้การว่าจะมีการระบุว่าเข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนไหนอย่างไรบ้าง
พ.ต.ต.สุริยา เผยอีกว่า ดีเอสไอเร่งรัดขอเอกสารเพิ่มเติมจาก STARK และผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ เพื่อใช้พิจารณาในส่วนของพยานหลักฐานขนานไปกับคำให้การต่างๆ ส่วนของพยานหลักฐาน เช่น เรื่องเส้นทางการเงินเอกสารการจัดซื้อสินค้าว่ามีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ระดับไหน ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จากนั้นจะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีใครเกี่ยวข้องบ้าง หรือเกี่ยวข้องในระดับใด เพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไป
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า ส่วน นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เบื้องต้นได้มีการประสานไปยังเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว แต่คาดว่าหากเจ้าตัวเข้าให้การ คงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ได้เร่งให้คณะพนักงานสอบสวนทำเรื่องราวให้ชัดเจน โดยภายในสัปดาห์หน้าและในช่วงสัปดาห์ถัดไปจะมีความชัดเจนต่างๆ ไม่ว่ารายชื่อผู้กระทำความผิด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด หรือใครบ้างเข้าข่าย
“นอกจากนี้ มีการเรียกบริษัทที่ตรวจสอบความผิดปกติของบัญชี (Special Audit) เข้ามาให้การในฐานะพยานเช่นเดียวกัน เพราะบริษัทเหล่านี้ได้พบเห็นการทุจริตและมีข้อเท็จจริงบางส่วน จึงต้องเรียกมาสอบถามถึงพฤติการณ์ต่างๆ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงให้ได้ จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงให้รอบด้าน อย่างไรก็ตาม ได้เปิดสายด่วน 1202 เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีของหุ้น STARK ติดต่อแจ้งความเสียหายเข้ามา ซึ่งจะให้คำแนะนำว่าจะต้องเตรียมเอกสาร หรือต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป จากนั้นจึงจะได้ทราบว่ามีจำนวนผู้เสียหายจากกรณีนี้กี่รายและรายละเอียดเพิ่มเติม" อธิบดีดีเอสไอ กล่าว