"โชติวัฒน์" ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลยุติธรรมภาค 2 พื้นที่ จ.ชลบุรี มอบนโยบายย้ำบริหารจัดการคดีตามแผนปฏิบัติการอำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมใช้ประสบการณ์ ความรู้ มุ่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีศาลยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 2 รวม 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ช่วงระหว่างวันที่ 27 - 29 มิ.ย. 2566
การตรวจเยี่ยมศาลวันแรก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายโชติวัฒน์ ประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยคณะ และนายสุพัฒน์ พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ร่วมตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดพัทยา ศาลแขวงพัทยา ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ศาลแรงงานภาค 2 ศาลแขวงชลบุรี และศาลจังหวัดชลบุรี
โดยมีนายสุพัฒน์ พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 นายคนองเดช สวัสดิ์วงศ์วิชา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา นางสาวสุกัญญา เวศยาสิรินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพัทยา นายชุติเดช ศิริมงคล
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี นายปัญญา ด่านพัฒนามงคล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 2 นายชัยชนะ เลาหศิริปัญญา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรี และนายวินัย เลิศประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
ซึ่งประธานศาลฎีกาได้ประชุมมอบนโยบายแก่คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบของศาลในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และผู้ประนีประนอม พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล หลังจากนั้น ประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากคณะผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงานและขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ระหว่างการประชุมมอบนโยบาย ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรมและการให้บริการประชาชนของศาลยุติธรรมในภาค 2 ผ่านการตรวจร่างคำพิพากษาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยคำพิพากษาต้องมีคุณภาพ ถูกต้องตามกฎหมายและแนวคำพิพากษาศาลฎีกา การพิจารณาพิพากษาคดีต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และสามารถบริหารจัดการคดีให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมาย การบริการประชาชนต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทุกภาคส่วนของสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ในการร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาการทำงานของศาลให้ครบทุกมิติ เพื่อให้ศาลยุติธรรมเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ในส่วนของศาลต่างๆ ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ศาลจังหวัดพัทยา เป็นศาลขนาดใหญ่ในส่วนภูมิภาคซึ่งมีปริมาณคดีฟ้องใหม่และคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวนมาก ส่งผลให้ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการคดี จึงต้องอาศัยผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของผู้พิพากษา ผู้ประนีประนอม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกส่วนงาน ในการร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยควรบริหารจัดการคดีตั้งแต่ชั้นรับฟ้อง การแบ่งกลุ่มประเภทคดี การกำหนดวันนัดพิจารณานัดแรกโดยเร็ว การพิจารณาเพิ่มคดีเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท รวมถึงการเปิดทำการในวันหยุดหรือนอกเวลาราชการ เพื่อให้การพิจารณาคดีแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาตามกฎหมายและลดปริมาณคดีที่ค้างพิจารณาให้เป็นปัจจุบัน
ศาลแขวงพัทยา แม้จะเป็นศาลที่มีคดีเข้าสู่การพิจารณาไม่มากนัก แต่ยังมีคดีที่ค้างการพิจารณาเกินกรอบระยะเวลาอยู่เล็กน้อย จึงควรกำหนดเป้าหมายในการบริหารจัดการคดีให้ชัดเจน การขอเลื่อนการพิจารณาคดีพึงอนุญาตเมื่อมีเหตุอันสมควร ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาได้กล่าวให้กำลังใจศาลแขวงพัทยาซึ่งเคยได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของศาลแขวงในภาค 2 ในโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นเพื่อประชาชนประจำปี พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 ให้มุ่งมั่นพัฒนาการทำงานเพื่อให้มีโอกาสได้รับรางวัลในโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นเพื่อประชาชนประจำปี พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2 ที่จะประกาศผลในเดือนกันยายนต่อไป
และศาลแรงงานภาค เจตนารมณ์ในการจัดตั้งเพื่อกระจายความยุติธรรมทางด้านแรงงานให้แก่ประชาชนในภูมิภาคได้อย่างทั่วถึง ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาล ผู้พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบสามารถพิจารณาพิพากษาคดีแรงงานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้สะดวกและรวดเร็ว สำหรับศาลแรงงานภาค 2 เป็นศาลที่สามารถบริหารจัดการคดีให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ศาลกลุ่มสีเขียว) ได้อยู่แล้ว ขอให้รักษาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคดี ตลอดจนการบริการประชาชนให้อยู่ในระดับดีเช่นนี้ต่อไป ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกากล่าวต่อไปว่า เนื่องจากคดีแรงงานในพื้นที่จังหวัดระยองมีเป็นจำนวนมาก จึงมีนโยบายให้ดำเนินการจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดระยองขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับการอำนวยความยุติธรรมทางด้านแรงงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมยิ่งขึ้น
สำหรับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เป็นศาลที่มีปริมาณคดีค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับศาลเยาวชนและครอบครัวอื่น แต่ก็สามารถบริหารจัดการคดีให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ศาลกลุ่มสีเขียว) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอชื่นชมคณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ที่ร่วมมือร่วมใจกันอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังชื่นชมคณะผู้พิพากษาสมทบที่มีศักยภาพโดดเด่นในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนในท้องที่ และขอให้มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์กิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์โดยใช้ประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับศาลยุติธรรมต่อไป
ส่วนศาลแขวงชลบุรี คดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลแขวงมักจะเป็นคดีที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจึงควรวางแผนบริหารจัดการคดีให้เหมาะสมกับประเภทคดีและอัตรากำลังผู้พิพากษาเพื่อให้สามารถพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จได้ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย หากสามารถบริหารจัดการคดีได้เสร็จเร็วกว่ากำหนดย่อมเป็นผลดีแก่ประชาชนและศาลยุติธรรมโดยรวม ประธานศาลฎีกากล่าวต่อไปว่า จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีกิจการขนาดใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ข้อพิพาททางคดีจึงมีทุนทรัพย์ค่อนข้างสูง นอกจากการพิจารณาพิพากษาคดีอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมแล้ว ผู้พิพากษาพึงปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด เพื่อธำรงความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของศาลยุติธรรม
และศาลจังหวัดชลบุรีเป็นศาลขนาดใหญ่ มีคดีเข้าสู่การพิจารณาเป็นจำนวนมากการวางแผนบริหารจัดการจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะประชาชนที่มาศาลต่างเป็นผู้ที่มีความเดือดร้อน การพิจารณาพิพากษาคดีที่รวดเร็วและเป็นธรรมย่อมเป็นการบรรเทาความทุกข์ของประชาชนผู้มีอรรถคดีทางหนึ่ง ทั้งนี้ บุคลากรของศาลยุติธรรมล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความรับผิดชอบ ทำงานมุ่งหวังต่อผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นสำคัญ จึงขอให้กำลังใจบุคลากรทุกภาคส่วนในการทำงานเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนตามความมุ่งหมายต่อไป