ปอศ. ลุยค้นบริษัท "เส้นด้าย สอดอ Style" ยูทิวบ์เบอร์ชื่อดังโพสต์อวดเสียพนันออนไลน์ 35 ล้านบาท พบไม่ส่งงบดุลบริษัท ต้องสงสัยตกแต่งบัญชีรายได้ เผยใช้เงินเล่นการพนันตั้งแต่ปี 61กว่า 100 ล้านบาท
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรพจน์ ลลิตจิรกุล, พ.ต.ต.หญิง ปวีณวรรณ สินธุชัย,พ.ต.ต.หญิง กันต์ฐิชรีย์ มณีเกิด สว.กก.3 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจสอบ บริษัท สอดอ สไตล์ จำกัด บริษัท ไดนี่ กรุ๊ป จำกัด บริษัท คาราเมล บิสคิท จำกัด บริษัท แฮปปี้ทรีเฟรนด์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ น.ส.พิมพ์ลดา แววไธสง หรือ เส้นด้าย สอดอStyle อายุ 32 ปี และ แฟนหนุ่ม ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้าเจ้าตัวได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมใช้ชีวิตประจำวันอย่างฟุ่มเฟือย หลังโพสต์ข้อความว่าได้เสียเงินจากการเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 35 ล้านบาท จนทำให้มีประชาชนบางส่วนเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับที่ไปที่มาของแหล่งทรัพย์สิน ก่อนจะมีการผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ
เบื้องต้นพบบริษัทของเจ้าตัวบางแห่งไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมา เคยมีการยื่นงบการเงิน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยตามที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการใช้เงินเล่นการพนันตั้งแต่ปี 61 ถึงปัจจุบัน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จึงน่าเชื่อว่ามีความผิดปกติทางบัญชี และอาจเกี่ยวเนื่องไปจนถึงการเสียภาษีประจำปี
จึงเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 และ พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 ในความผิดฐาน “ไม่ได้จัดเก็บเอกสารทางบัญชีไว้ที่สถานประกอบการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท, ไม่ได้จัดทำใบหุ้นมอบให้กับผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ,ไม่ได้จัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 10 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ,มีการย้ายเปลี่ยนแปลงสำนักงานและเพิ่มสาขาที่ใช้ในการประกอบกิจการ ซึ่งไม่ส่งคำบอกการเปลี่ยนย้ายสำนักงานแก่นายทะเบียนเพื่อจดทะเบียน อันเป็นความผิดตามมาตรา 14 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท “
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องเอกสารทางบัญชีของบริษัทเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป