เหยื่อ 18 ราย รุมแจ้งจับสองนักธุรกิจสาวอสังหาริมทรัพย์สายบุญ หลอกลงทุนคริปโตฯ ยอดเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท
วันนี้ ( 23 มิ.ย.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายกิตติศักดิ์ อชิรเวโรจน์ และนายธวัชชัย ดีสวาท ทนายความ พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 18 ราย เข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสองนักธุรกิจสาวสายบุญหลอกลงทุนเทรดเหรียญคลิปโตเคอเรนซี่และลงทุนในโครงการต่างๆ อีก 13 โครงการ อาทิโครงการขวัญถุง ,กระท่อมหรรษา ,กระท่อม VIP, ฝากบอสซื้อหวย,โอนค่าน้ำร้อนน้ำชาให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
,แก้บนขนมโค 5 เท่า และ โอนเทสระบบ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท
นายกิตติศักดิ์ ทนายความ กล่าวว่า
นักธุรกิจสาวทั้งสองรายจะใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ผ่านทางเว็บไซด์ และไลน์กลุ่มชื่อ"อสังหา บาย จุฑานิล" อ้างได้กำไรดี เมื่อเหยื่อหลงเชื่อยอมลงทุนเดือนสองเดือนแรกก็จะได้ปันผลกำไรตามที่กล่าวอ้าง เมื่อลงทุนเพิ่มก็เริ่มมีปัญหาอ้างว่าขาดทุนและถูกโบรคเกอร์เถื่อนโกง
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี อาชีพรับราชการ เปิดเผยว่า เริ่มต้นรู้จักกับ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สายบุญ จากการไปร่วมงานทำบุญวัดต่างๆ ก่อนจะชักชวนให้ร่วมลงทุนโครงเทรดเงินคริปโตเคอเรนซี่ อ้างว่ามีสาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ฐานะดี ร่ำรวยมากและใจบุญ มีความเชี่ยวชาญในการเทรดหุ้น เป็นอาจารย์สอนการลงทุนให้แก่นักลงทุนรายใหญ่ จึงทำให้หลายๆ คนหลงเชื่อโอนเงินไปลงทุนเทรดเหรียญคลิปโตฯ สูญเงินไปจำนวนมาก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุและยังแจ้งความ thaipoliceonline.com แล้ว จึงแนะนำให้ไปร้องของ บช.สอท.โอนคดีมา บช.ก.เพื่อจะได้มีอำนาจการสืบสวนสอบสวนทำคดีต่อไป