ตำรวจสืบสวนนครบาลจับพี่เลี้ยงจ้าง "เสาเอก อ.อัจฉริยะ" ล้มมวยขณะขึ้นชกกับ "ดีเซลเล็ก บิ้วเจซี" ในรายการศึกเพชรยินดี เวทีราชดำเนิน
วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวนายฐิติวัฒน์ ฟูกลิ่น อายุ 22 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 91 กรุงเทพนนท์2 แยก5 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 538/2566 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ข้อหาห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่นักมวย หรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยทำการล้มมวย สามารถจับกุมที่ บริเวณบ้านเลขที่ 51 หมู่บ้านสวนทองวิลเลจ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ค่ายมวย อ.อัจฉริยะ ได้ส่ง เสาเอก อ.อัจฉริยะ ขึ้นชกกับ ดีเซลเล็ก บิ้วเจซี ในรายการศึกเพชรยินดี ในพิกัด 122 ปอนด์ ณ เวทีมวยราชดำเนินโดยก่อนการแข่งขันทัศนคติของเซียนมวย และนักวิจารณ์ ให้มุมมองวิเคราะห์ว่าจากทั้งสถิติและฝีมือ ชั้นเชิงในการชกที่ผ่านมา เสาเอกฯ มีโอกาสเป็นฝ่ายชนะมากกว่า เมื่อถึงเวลาการแข่งขันมีการชกกันทั้งหมด 5 ยกโดยในระหว่างการ แข่งขันในช่วงยกที่ 1-3 วิธีการชกของเสาเอกฯ มีการออกอาวุธและป้องกันตามปกติเหมือนฟอร์มการชกที่ผ่านมาสถานการณ์เป็นฝ่ายออกอาวุธได้มากกว่า
จนเริ่มชกยกที่ 4 และ 5 เสาเอก ไม่ค่อยออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ และไม่พยายามป้องกันตอนที่คู่ต่อสู้ออกอาวุธใส่จนช่วงยกดังกล่าวถูกคู่ต่อสู้ออกอาวุธทำคะแนนได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด จนจบการแข่งขันยกที่ 5 ผลปรากฏว่า เสาเอก อ.อัจฉริยะ เป็นฝ่ายแพ้คะแนนดีเซลเล็ก บิ้วเจซี หลังจากจบการแข่งขันได้มีการวิเคราะห์จากบรรดาเซียนมวย และนักวิจารณ์ว่า พฤติกรรมการชกของ เสาเอกฯผิดจากการชกปกติอย่างเห็นได้ชัด และมีข่าวว่ามีการแทงพนันฝั่งตรงข้ามเสาเอกฯ ด้วยเงินจำนวนมาก ในลักษณะที่รู้ว่า เสาเอกฯจะเป็นฝ่ายแพ้ ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายฐิติวัฒน์ ฟูกลิ่น มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้จูงใจ ให้นักมวยทำการล้มมวย จึงได้รวบรวมหลักฐาน และขอหมายจับ โดยจับกุมนายฐิติวัฒน์ ได้ที่บริเวณ หมู่บ้านสวนทองวิลเลจ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนักมวย และเป็นญาติกับเสาเอก อ.อัจฉริยะ อดีตเคยเป็นนักมวยมาก่อน และได้รับการติดต่อจากเซียนมวย ชื่อย่อ ต. แถวนนทบุรี เมื่อประมาณกลางเดือนพฤษภาคม (ช่วงก่อนการแข่งขัน) ให้ไปคุยกับ เสาเอก อ.อัจฉริยะ หรือนายอัมรินทร์ ฟูกลิ่น ที่จะขึ้นชกรายการศึก ยินดีเพชร ณ เวทีมวยราชดําเนิน โดยจะมอบเงินค่าตัวเสาเอกเป็นเงิน 250,000 บาท และตนเอง จะได้รับค่าตอบแทนอีก 50,000 บาท ตนจึงได้ไปคุยกับ เสาเอก เมื่อเสาเอก ตกลงว่าจะล้มมวย ตนจึงได้แจ้งใน เซียนมวยทราบ พอถึงวันแข่งขัน เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปหาเซียนมวยคนดังกล่าว และอยู่ด้วยกันจนจบการแข่งขัน โดยเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน และรู้ว่า เสาเอก อ.อัจฉริยะ หรือ นายอัมรินทร์ ฟูกลิ่น ถูกจับได้ว่า ล้มมวย เซียนมวยคนดังกล่าว จึงได้ให้คนมารับตน ไปหลบหนีที่ภาคอีสานเป็นเวลา กว่า 1 อาทิตย์ โดยเซียนมวยคนดังกล่าวได้หาที่พักให้และออกค่าใช้จ่ายในการดูแลตน
จากนั้นตนได้ขอกลับบ้าน โดยก่อนกลับ เซียนมวยคนดังกล่าวได้กำชับว่า เมื่อกลับไปแล้ว ห้ามซัดทอดมาถึงตนเอง โดยหลังจากกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว เซียนมวยคนดังกล่าว ได้มีการส่งเงินให้ตนเองจำนวนหลายครั้ง โดยล่าสุดได้ ให้เงินตน เมื่อประมาณ 2-3 วันก่อนถูกจับกุม และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า กลุ่มของขบวนการล้มมวยซึ่งนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่วงการกีฬาของประเทศไทย ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติ โดยขณะนี้ทาง สืบนครบาลได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมขบวนการเหล่านี้ให้หมดไป โดยหากตรวจพบว่ากลุ่มบุคคลใด มีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทุกราย