MGR Online - ผอ.กองคดียาเสพติด แจงคลิปเสียงสนทนากลุ่มเว็บพนันออนไลน์ อ้างอธิบดีดีเอสไอ เรียกรับเงิน 25 ล. เคลียร์คดีได้ ไม่เป็นความจริง เชื่อปลอมเอกสารหวังใช้รีดทรัพย์
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่กองคดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายพงษธร อินอำนวย ผอ.กองคดียาเสพติด เปิดเผยกรณีคลิปเสียงสนทนาแอบอ้างอธิบดีดีเอสไอ เรียกเงินจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อเคลียร์คดีกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ ให้ไม่ถูกดำเนินคดี ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอทราบเรื่องก่อน “นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ หรือ เป้” ไปแจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ประมาณ 2-3 สัปดาห์ โดยมีที่ปรึกษาทหารนายหนึ่งได้ประสานดีเอสไอสอบถามว่าดำเนินคดีกลุ่มบุคคลเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ จึงขอให้ส่งข้อมูลบุคคลที่คาดว่าจะถูกจับมาตรวจสอบก็คือ นายเป้ แต่พบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินการตรวจสอบในทางลับเพิ่มเติมเพราะคาดว่าอาจเป็นแก๊งต้มตุ๋นคอยรีดทรัพย์ ต่อมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีอัยการท่านหนึ่งโทรศัพท์มาปรึกษาว่าดีเอสไออีกครั้งว่ารับเป็นคดีพิเศษเกี่ยวกับเว็บพนันรายนี้หรือไม่ เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จากนั้น นายเป้ มีการเข้าแจ้งความ สภ.คูคต ตามที่ปรากฎเป็นข่าวและพบว่ามีตำรวจกับพลเรือนร่วมกันรีดทรัพย์นายเป้
กระทั่งวานนี้ (20 มิ.ย.) มีรายการข่าวทีวีช่องหนึ่งเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่าง “นายพิสิษฐ์ คณิศรพาณี หรือ ต้น” หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันและการฟอกเงิน กับ “นายจักรกริช บุญประมุข หรือ แก็ป” อ้างว่านายต้นมีการเรียกรับเงินจำนวน 25 ล้านบาท เอาไปเคลียร์กับอธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้จบปัญหาและไม่ดำเนินการทางคดีนายเป้คนรู้จักกับนายแก็ป คาดว่ามีการจ่ายไปบางส่วนแต่ไม่ครบ ทั้งนี้ ในข้อเท็จจริงกลุ่มของนายต้นเคยอ้างหลายหน่วยงานที่จับกุมเว็บพนันออนไลน์ มานานแล้ว ซึ่งกลุ่มนายเป้ก็มีการตรวจสอบ จึงรู้ทันว่าไม่มีหน่วยงานตามรีดทรัพย์ที่ถูกอ้าง จึงไม่ทำการจ่ายเงินให้ และเข้าแจ้งความดังกล่าว
นายพงษธร เผยด้วยว่า นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้รับไฟล์ PowerPoint ปลอมที่ได้นำข้อมูลส่วนตัวจริงของนายเป้ มาประกอบใช้เพื่อการแอบอ้างโดยเฉพาะ และที่สำคัญดีเอสไอไม่มีอำนาจในการทำไฟล์ดังกล่าวซึ่งบรรจุข้อมูลลับภายในและยังใช้ตราของกระทรวงอีกด้วย และไฟล์นี้ก็ถูกกลุ่มคนที่เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับนายเป้มากๆ ทำมาเพื่อนำไปหลอกตบทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การแอบอ้างดีเอสไอก็จะดำเนินการตามขั้นตอน หากพบว่าเกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน