“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 21 มิถุนายน 2566 ตอน : เชือด "โดนัลด์ ทรัมป์" ชะตากรรม "ลุงตู่" หลังหมดอำนาจ
เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก เมื่ออัยการของสหรัฐอเมริกาเดินหน้าฟ้องนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ในข้อหาครอบครอง “เอกสารลับ” ที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ หลังจากตนเอง หมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
แต่ยังลุแก่อำนาจ เก็บเอกสารดังกล่าวกว่า 300 เรื่อง ไว้ที่บ้านพักซึ่งเป็นรีสอร์ทส่วนตัว ในเมืองปาล์ม บีช รัฐฟลอริดา
งานนี้ยืนยันได้ว่า ไม่มีเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องไปขึ้นศาล แก้ข้อกล่าวหาในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการจารกรรม ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า คงรอดยาก เพราะเคยมีตัวอย่าง การตัดสินคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายราย อาทิ
การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ CIA และ FBI ที่ลักลอบส่งข้อมูลให้โซเวียตหรือที่โด่งดังจนนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “สโนว์เดน” ก็คือการดำเนินคดีกับ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่เปิดโปงการสอดแนมพลเรือนสหรัฐ เป็นต้น
สำหรับกรณีของทรัมป์ ภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการยึดมั่นในหลักกฎหมาย ไม่ 2 มาตรฐานของสหรัฐอเมริกาก็คือ เจ้าหน้าที่ FBI บุกไปยังคฤหาสน์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อตรวจค้น และยึดเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวโดยไม่ไว้หน้า ชนิดไม่สนใจว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะเป็นถึงอดีตผู้นำประเทศของตนเองและในเวลาต่อมา ทรัมป์ได้ถูกเพิ่มข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการขัดขวางการสอบสวนของ FBI ในกรณีดังกล่าวอีกหนึ่งกระทง
แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีพฤติกรรมเป็นผู้ร้ายหลังฉากในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกประเทศของตนเอง ตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ การบุกอ่าวหมู ประเทศคิวบา เพื่อโค่นล้มฟริเดล คาสโตร การโค่นล้มประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียม ของเวียดนามใต้ยุคสงครามเวียดนาม มาจนกระทั่งถึงยุคสงครามอ่าวเปอร์เซีย เพื่อโค่นล้มซัสดัม ฮุสเซน และล่าสุดการเป็นแกนนำการสนับสนุนให้ยูเครนทำสงครามยืดเยื้อกับรัสเซียก็ตาม
แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมสหรัฐอเมริกาก็คือ การยึดมั่นในหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดเท่าเทียมกัน ไม่เว้นแม้แต่คนที่เป็นอดีตผู้นำประเทศ
ก่อนหน้านี้โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเคยถูกดำเนินคดีในศาลสูงรัฐนิวยอร์คมาแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากกรณีที่มีจุดเริ่มต้นจากสัมพันธ์ทางเพศกับนักแสดงสาวที่มีผลงานในวงการหนัง X ที่ชื่อ “สตอร์มี แดเนียลส์” และทรัมป์พยายามใช้เงินปิดปากไม่ให้หล่อนขุดคุ้ยเรื่องในอดีตซึ่งจะมีผลกระทบต่อการลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาเมื่อปี 2559
แต่เรื่องกลับเป็นประเด็นขึ้นมา เพราะนายทรัมป์ไม่ได้ชี้แจงการใช้เงินเพื่อการนี้ในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องแสดงตามที่กฎหมายกำหนดไว้
เมื่อพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี เรื่องจึงถูกขุดขึ้นมาเล่นงานทรัมป์ ในความผิดฐานจงใจปกปิดการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งแม้จะเป็นความผิดทางอาญา แต่โทษก็ยังไม่หนักหนาสาหัส
และเทียบไม่ได้เลยกับถูกตั้งข้อหากรณีครอบครอง “เอกสารลับ” ทั้งที่ไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2563
เพราะในพฤติกรรมดังกล่าว ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาถึง 37 กระทง ซึ่งหากนับความผิดรวมกันในแต่ละกระทง เขาอาจจะถูกจำคุกมากกว่า 20 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่า ทรัมป์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 77 ปี มีโอกาสที่จะ “สิ้นอายุขัย” ก่อนพ้นโทษโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และหากเป็นเช่นนั้นจริง โลกคงต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า โดนัล ทรัมป์ คืออดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกและคนสุดท้ายที่อำลาโลกไปในฐานะ “นักโทษเด็ดขาด” ที่หมดลมหายใจในเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่สนับสนุนทรัมป์และเคยออกมาสร้างความวุ่นวายไม่ยอมรับผลการลงคะแนนเสียงเมื่อครั้งที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่ “โจ ไบเดน” ในการเลือกตั้งปลายปี 2562 ได้ออกมาโจมตีว่า เรื่องทั้งหมดเป็นแผนสกัดกั้นไม่ให้ทรัมป์ได้ลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สองซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในปี 2567
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม “วิบากกรรม” ที่เกิดขึ้นกับทรัมป์เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า “อำนาจไม่ใช่สิ่งที่จิรังยั่งยืน” เมื่อใดก็ตามที่ความยิ่งใหญ่หลุดลอยไปจากมือหลังจากลุกจากเก้าอี้หรือต้องถอดหัวโขน ย่อมมีโอกาสที่จะถูกขุดคุ้ยข้อผิดพลาดที่เคยทำไว้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้กลายเป็นหอกดาบที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงอดีตผู้ครองอำนาจ ซึ่งมีทั้งคนรักและคนเกลียดได้เช่นกัน
แม้กรณีเชือดโดนัล ทรัมป์ หลังสิ้นสุดการครองอำนาจแค่ 4 ปี อาจทำให้หลายคนนึกเปรียบเทียบกับ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รักษาการณ์ในปัจจุบันซึ่งครองอำนาจมาสู่ปีที่ 9
แต่ขอบอกเลยว่า “ที่นี่ประเทศไทย” แม้บิ๊กตู่จะถูกตั้งข้อสังเกตว่าขณะเป็นนายกฯ อาจจะได้ใช้อำนาจอย่างผิดพลาดหลายเรื่อง เช่น กรณีเหมืองทองอัคครา หรือกรณีหลานชายตั้งบริษัทในค่ายทหารแล้วประมูลงานในกองทัพได้หลายสิบล้านบาท
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีวันจะเกิดขึ้นกับ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีวันที่คนไทยจะได้เห็นเจ้าหน้าที่รัฐบุกตรวจค้นหาหลักฐานเพื่อเอาผิดบิ๊กตู่ในวันที่เป็นอดีตนายกฯ อย่างแน่นอน
เพราะที่นี่คือประเทศไทย
-------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1