สตม.จับหนุ่มชาวจีน พร้อมแฟนสาวชาวไทย ปลอมตราประทับ-ลายมือ เปิดบริษัทหลอกลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์รับต่อวีซ่า
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. แถลงผลจับกุม นายติง (นามสมมติ) สัญชาติจีน อายุ 32 ปี และ น.ส.กุลธิดา (สงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันปลอมขึ้นซึ่งดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมืองขององค์การสาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน ประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในหนังสือเดินทางโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
โดยพฤติการณ์ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4 บก.สส.สตม.รับการร้องเรียนว่า มีบุคคลที่อ้างว่าสามารถทำการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรได้ แต่เมื่อส่งหนังสือเดินทางไปให้ทำปรากฏว่ารอยตราประทับการอนุญาตขออยู่ต่อเป็นรอยตราประทับและวีซ่าปลอม จากนั้นชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับและสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี กทม. จึงขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรีตรวจค้นพบบุคคลทั้งสอง
จากนั้นจึงตรวจค้นที่พักอาศัยพบหนังสือเดินทางของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน 64 เล่ม (มีการประทับรอยตราและวีซ่าปลอม) ตราประทับรอยตราวีซ่าและสำหรับรับรองเอกสารราชการปลอม 41 ชิ้น โทรศัพท์มือถือหลายรายการ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวด้วยว่า พฤติการณ์ผู้ต้องหาทั้งสองรายจะโฆษณาเชิญชวนลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ว่า เป็นบริษัทในการรับต่อวีซ่า จากนั้นจะมีบุคคลต่างชาติหลงเชื่อและยินยอมส่งมอบหนังสือเดินทางมาให้เพื่อไปทำการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร โดยจะคิดค่าบริการเล่มละ 70,000 บาท ต่อมาเมื่อผู้ต้องหาได้รับหนังสือเดินทางมาแล้วจะนำมาประทับรอยตราและวีซ่าปลอม
จากนั้นจะถ่ายภาพยืนยันว่า มีการประทับตราแล้วส่งคืนให้กับเจ้าของหนังสือเดินทาง ซึ่งหากเจ้าของหนังสือเดินทางคนใดทราบว่าเป็นตราปลอมจะถูกข่มขู่และเรียกรับเงินเพื่อเป็นค่าไถ่ในการคืนหนังสือเดินทางเล่มละ 200,000 บาท ตรวจสอบพบว่ามีการส่งหนังสือเดินทางมาให้ทำมากกว่า 80 เล่ม และพบการปลอมรอยตราและวีซ่าของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น ลำพูน บุรีรัมย์ และตราประทับเพื่อรับรองเอกสารราชการของสถานทูตหลายประเทศ