xs
xsm
sm
md
lg

เปิดลับ จุดไฟรัฐปาตานี ใครเป็นใคร…? ฉากหน้าและชักใยเบื้องหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษเปิดลับ จุดไฟรัฐปาตานี ใครเป็นใคร…?ฉากหน้าและชักใยเบื้องหลัง



เปิดลับ จุดไฟรัฐปาตานี ใครเป็นใคร…? ฉากหน้าและชักใยเบื้องหลัง : ถอนหมุดข่าว 16-06-66เปิดลับ จุดไฟรัฐปาตานี ใครเป็นใคร…? ฉากหน้าและชักใยเบื้องหลัง : ถอนหมุดข่าว 16-06-66Posted byNews1 on Friday, June 16, 2023

การจัดกิจกรรมการเปิดตัวขบวนนักศึกษา ณ ห้องประชุมศรีวังสา ม.สงขลา วิทยาเขตปัตตานี วันที่7 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับประเด็นเนื้อหาที่ชัดเจนออกมาแล้วว่า ต้องการให้มีการทำประชามติ “แยกดินแดน” จากประเทศไทย แล้วสถาปนารัฐปาตานีขึ้นมาอีกครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าประเด็นเนื้อหาก็คือ สายสัมพันธ์ความเกี่ยวข้องของผู้ขับเคลื่อนกิจกรรมทั้งที่อยู่บนเวทีฉากหน้า และชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจแบ่งกลุ่มให้เห็นชัดเจนได้ดังต่อไปนี้

กลุ่มแรกได้แก่ “คนการเมือง” เชื้อสายใต้จากพรรคการเมือง 3 พรรค ได้แก่ ว่าที่ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล ซึ่งแม้จะไม่ได้ไปร่วมงานด้วยตนเอง แต่กลับมีภาพสวมเสื้อพรรคสีส้มติดอยู่ในโปสเตอร์โปรโมทกิจกรรม เหมือนต้องการสื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่า พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับเนื้อหาในกิจกรรมครั้งนี้

คนต่อมาเป็นกรรมาธิการยุติธรรมในโควตาพรรคประชาชาติ คือนายอาเต็ฟ โต๊ะโกซึ่งสวมหมวก 2 ใบ คือเป็นทั้งผู้ก่อตั้งองค์กรขับเคลื่อนมวลชนแบรนด์ใหม่ในชื่อเดอะปาตานี (The Patani) โดยนำเรื่องการเคลื่อนอย่างสันติ

เพื่อเรียกร้องสิทธิในการกำหนดอนาคตทางการเมืองของตนเอง จัดระบบการปกครองตนเอง และขอแยกดินแดนตั้งรัฐปาตานี ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยนายอาเต็ฟดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายยุทธศาสตร์ของเดอะปาตานี

ส่วนอีก 2 คนการเมืองที่เข้าไปมีเอี่ยวกับกิจกรรมจุดพลุเขย่าหน่วยงานความมั่นคงก็คือ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ ซึ่งกำลังรอให้ กกต. ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการในฐานะ สส.ปัตตานี ที่ขึ้นเวทีเสวนาพร้อมกับรองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 พรรคที่ลงนามร่วมจัดตั้งรัฐบาลพร้อมกับพรรคก้าวไกล

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวในเชิงยุทธศาสตร์เน้นแนวทางการแสดงออกทางความคิดและการขับเคลื่อนกิจกรรมเชิงสัญญลักษณ์ผ่านการสนับสนุนของกลุ่มแรกเป็นการดำเนินการคู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวด้านยุทธวิธีของกลุ่มติดอาวุธที่มีเป้าหมายเดียวกัน

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลังการเสวนาผ่านไปเพียง 3 วัน คนร้ายกลุ่มหนึ่งซึ่งใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะบุกเข้าประชิดป้อมรักษาการณ์ริมทางรถไฟแล้วใช้อาวุธปืนสังหารสิบตำรวจตรีพิจักษณ์ บัวแก้ว ที่ประจำอยู่ในป้อมจนเสียชีวิต

พร้อมกับชิงอาวุธประจำกายแบบ M-16 หลบหนีไปเหตุเกิดที่ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จว.ปัตตานี

หากต่อ “จิ๊กซอว์” จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นล่าสุดก็จะเข้าใจที่มาที่ไปได้ไม่ยาก เพราะนายอาเต็ฟ โต๊ะโก ผู้ก่อตั้งเดอะปาตานี ผู้นี้เป็นน้องชายของนายฮารีฟ โต๊ะโก ซึ่งทางการไทยระบุว่า เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ระดับแกนนำ

นายฮารีฟเป็นทั้งหัวหน้าฝ่ายทหารและคอมมานโดตัวอันตราย ที่มีส่วนร่วมก่อเหตุทั้งการลอบยิงการวางระเบิดเพื่อทำร้ายทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริสุทธิ์ จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายคนแล้วคนเล่า

ปัจจุบันนายฮารีฟซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของหน่วยงานความมั่นคงอยู่ระหว่างการหลบหนีโดยได้รับความช่วยเหลือจากนักการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด

คนสุดท้ายที่ต้องกล่าวถึงก็คือ นายอิรฟาน อุมา นายกสโมสรนักศึกษา สถาบันอาหรับฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งเป็นผู้กล่าวแถลงการณ์ปิดรายการเสวนา ในนามประธานขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ

ไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นบุตรชายคนเล็กของนายนัจมุดดีน อูมา ซึ่งเคยถูกจับกุมข้อหากบฏมาแล้ว แต่ได้รับการยกฟ้อง ท่ามกลางเสียงครหาว่ามีการเมืองแทรกแซง เนื่องจากนายนัจมุดดีนเป็น สส. พรรคการเมืองใหญ่ที่มีอำนาจในรัฐบาลขณะนั้น

จึงชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า ยุทธการ “แยกดินแดนตั้งรัฐปาตานี” ที่เกิดขึ้นดำเนินการในลักษณะ “แยกกันเดินรวมกันตี” สอดประสานกันอย่างเป็นระบบแม้จะต่างกันด้วยรูปแบบ วิธีการ แต่ก็เอื้อประโยชน์กัน นั่นคือการบรรลุเป้าหมายสุดท้ายที่วางไว้คือ ฟื้นปาตานีให้กลับคืนมาอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น