xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กโจ๊ก" ประสานเจ้าคณะใหญ่หนเหนือตั้ง คกก. เตรียมเปิดทรัพย์วัดบางคลาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบ.ตร.เผยประสานเจ้าคณะใหญ่หนเหนือเพื่อตั้งคณะกรรมการกลาง เตรียมเปิดทรัพย์สินวัดบางคลาน

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาแสดงความคิดเห็นว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิ (ส.ว.) มีส่วนเกี่ยวข้องและมีความผิดในคดีชายชุดดำบุกปิดวัดบางคลาน ทำร้ายพระสงฆ์และชาวบ้านในวัดบาดเจ็บว่า ขณะนี้ได้มีการประสานเรื่องข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือมีชายฉกรรจ์จํานวน 21 คน บุกเข้าไปทำร้ายทุบตีพระในวัด ซึ่งทั้งหมดถูกออกหมายจับและถูกจับกุมดําเนินคดีแล้วทั้ง 21 คน รวมถึงมีการขอออกหมายจับ ส.ว. รายดังกล่าว แต่ปรากฏว่าศาลให้ออกหมายเรียกและได้เรียกตัวมาแจ้งข้อหาแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันด้วยว่า ที่วัดไม่มีชายฉกรรจ์แล้ว มีเพียงแต่เจ้าอาวาสที่เข้าวัดไม่ได้เพราะยังกลัวอยู่ ดังนั้นสิ่งที่จะทำต่อคือ ตนได้นำเรียนกับเจ้าคณะใหญ่หนเหนือแล้ว เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการกลางเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา จากนั้นจะประสานไปยังกรมบังคับคดีเพื่อเปิดทรัพย์สินที่วัด เพราะขณะนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ส่งมอบทรัพย์สินและเปิดทรัพย์สินได้ แต่ที่ไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากชาวบ้านมีความเคลือบแคลงสงสัย ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการกลางดังกล่าวขึ้นมา เพื่อเปิดทรัพย์สินร่วมกันและเมื่อเปิดแล้วทุกฝ่ายจะเห็นพร้อมกันว่าทรัพย์สินหายไปหรือไม่ หากเปิดมาแล้วทรัพย์สินอยู่ครบ เรื่องก็จบแต่ถ้าทรัพย์สินหายไป จะเป็นหน้าที่ของตนในการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนเรื่องที่ผู้ว่าฯ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ส.ว. นั้น ท่านคงมีข้อมูลรายงานจากผู้บังคับการตำรวจภูธรประจำจังหวัด แต่ตนไม่ได้มองว่าเป็นน้ำหนักทางคดี เพราะน้ำหนักทางคดีจริงๆอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีมากกว่า และตนได้สั่งให้ไปรวบรวมค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบพิจารณาอีกครั้ง เพื่อดูว่า สำนวนคดีหรือพยานหลักฐานมีความสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่ และสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เนื่องจากการดำเนินคดีอาจจะไม่ใช่หนทางเดียวที่จะทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ การที่ทำให้ทุกฝ่ายหายแคลงใจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ชาวจังหวัดพิจิตรมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าไปสักการะภายในวัดได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดโดยเฉพาะผู้มีอิทธิพล
กำลังโหลดความคิดเห็น