“ผู้การเต่า” สั่งรายงานข้อเท็จจริงปมส่วยสติกเกอร์ทางหลวงภายใน 5 วัน หากจับได้ว่าโกหกสั่งย้ายทันที ย้อน “รังสิมันต์” ให้ตรวจสอบเด็กเส้นทั้งองค์กรไม่ใช่มาเจาะจงแค่ ตร.ทล.7 สถานี
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตส่วยรถบรรทุกว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ตำรวจทางหลวง 8 กองกำกับการทั่วประเทศรายงานเกี่ยวกับการเรียกรับส่วยในหน่วยตามข้อเท็จจริงภายในระยะเวลา 5 วัน ภายหลังมีชื่อตำรวจปรากฏออกมาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หากไม่รายงานตามข้อเท็จจริงรู้ภายหลังสั่งย้ายทันทีไม่ละเว้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการพาดพิงถึงภรรยานายตำรวจคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เข้ามาพัวพันกับส่วยสติ๊กเกอร์โดยเป็นคนกลางรับเคลียร์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมถึงจะประสานสมาพันธ์รถบรรทุกนำข้อมูลหลักฐานต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติม แต่ตำรวจต้องทำตามพยายานหลักฐาน หากพบกระทำความผิดจริงก็ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนช่องหนึ่งเชื่อมโยงไปถึงสถานีทางหลวงเกรดเอ 7 สถานีนั้น เรื่องนี้อาจจะไม่มีมูลความจริงทั้งหมด หากจะกล่าวหาว่าตำรวจใช้เส้นสาย ก็ต้องตรวจสอบทั้งองค์กรไม่ใช่เจาะจงไปที่หน่วยใดหน่วยหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าหากพบตำรวจคนไหนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและสั่งย้ายอย่างแน่นอน
“ผมพร้อมเข้ามาเปลี่ยนแปลงกองบังคับการตำรวจทางหลวงให้ขาวสะอาดมากขึ้น ส่วนภาคประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบเข้ามามีส่วนร่วมด้วยก็จะดำเนินคดีเช่นกันไม่มีละเว้นอย่างแน่นอน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว