"โชติวัฒน์" ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลในจังหวัดพิจิตร – นครสวรรค์ แนะบริหารจัดการคดีให้มีประสิทธิภาพ ต้องวางแผนและทำงานเป็นทีม พร้อมชวนศาลร่วมโครงการประกวดศาลดีเด่นเพื่อประชาชน ครั้งที่ 2 มุ่งพัฒนาระบบงานคุณภาพ ประชาชนได้รับความพึงพอใจสูงสุด
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกาพร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดพิจิตร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ศาลแขวงนครสวรรค์ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ และศาลแรงงานภาค 6
โดยมีนายสุทธิพงษ์ โอวาสิทธิ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดลพบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิจิตร, นายสนธิชัย จันทร์พานิช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดนครสวรรค์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร, นายนรากร กันทะคำ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเลย ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์, นายธนรัตน์ ทั่งทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 6 พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
ซึ่งประธานศาลฎีกาได้ประชุมมอบนโยบายแก่ คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้ประนีประนอมตลอดจนผู้พิพากษาสมทบของศาลจังหวัดพิจิตร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ศาลแขวงนครสวรรค์ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ และศาลแรงงานภาค 6 พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล หลังจากนั้น ประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากคณะผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงานและขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ในการประชุมมอบนโยบายของศาลจังหวัดพิจิตรและศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ประธานศาลฎีกากล่าวว่า ศาลจังหวัดพิจิตร มีปริมาณคดีรับใหม่ในแต่ละเดือนค่อนข้างมาก อีกทั้งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาทั้งคดีศาลจังหวัดและคดีศาลแขวง การบริหารจัดการคดีให้มีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยการวางแผนและการทำงานร่วมกันเป็นทีมระหว่างผู้พิพากษาหัวหน้าศาลกับผู้พิพากษาซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ในการนี้ขอให้ทุกคนประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการบริหารจัดการคดีแต่ละประเภท ในขณะเดียวกันพึงกำหนดวันนัดพิจารณาสำหรับคดีจัดการพิเศษให้เพียงพอกับจำนวนคดี โดยที่ไม่กระทบกับวันนัดคดีประเภทอื่น นอกจากนี้ต้องติดตามคดีค้างพิจารณาไม่ให้มีจำนวนมาก เพื่อที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดการคดีรับใหม่ในอนาคต สำหรับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิจิตรมีปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณาไม่มากขอให้รักษาเกณฑ์มาตรฐานด้านระยะเวลาในการพิจารณาคดีไว้ และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนางานบริการประชาชน ตลอดจนกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างสรรค์สังคม โดยประธานศาลฎีกาเน้นย้ำด้วยว่า การสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อศาลเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายาม หากบุคลากรศาลยุติธรรมทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันในการทำงาน ผลงานที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของศาลยุติธรรมและนำมาซึ่งความศรัทธาของประชาชนได้เป็นอย่างดี
โดยระหว่างการประชุมมอบนโยบายของศาลในจังหวัดนครสวรรค์ ประธานศาลฎีกาย้ำภารกิจสำคัญที่บุคลากรทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อน คือ การเร่งรัดคดีให้แล้วเสร็จไปโดยเร็ว เพราะกระบวนการทางคดีเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิต่างๆ ของคู่ความ การดำเนินคดีด้วยความรวดเร็วย่อมเป็นการช่วยเหลือคู่ความให้บรรเทาความเดือดร้อนลงได้
แม้ศาลแขวงนครสวรรค์จะมีคดีเข้าสู่การพิจารณาจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคดีที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และมอบแนวโน้มที่คู่ความจะตกลงกันได้ จึงขอให้พิจารณานำคดีเข้าไกล่เกลี่ยให้มากที่สุด โดยคดีที่มีการนัดสืบพยานไว้แล้ว ก็อาจนำมาไกล่เกลี่ยก่อนวันนัดได้ นอกจากนี้ อาจพิจารณาจัดให้มีสัปดาห์ไกล่เกลี่ยควบคู่กันไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องควบคุมระยะเวลาในกระบวนการดังกล่าวให้เป็นไปอย่างเหมาะสม หากคู่ความไม่มีแนวโน้มที่จะตกลงกัน ก็ต้องส่งคดีเข้าสู่การพิจารณาโดยไม่เลื่อนอีก สำหรับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ ควรเน้นงานบริการประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ศาลซึ่งเป็นด่านหน้าผู้ติดต่อกับคู่ความโดยตรง ก็ต้องมุ่งมั่นให้บริการ คอยให้คำแนะนำและให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่เดินทางมาศาลให้เข้าถึงกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ในส่วนศาลแรงงานภาค 6 มีภารกิจในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนด้วยการไปนั่งพิจารณาคดียังศาลจังหวัดที่อยู่ในเขตอำนาจอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามพึงพิจารณาเพิ่มการบริการประชาชนด้านอื่น อาทิ การจัดโครงการศาลแรงงานเคลื่อนที่ โดยให้นิติกรไปรับฟ้อง หรือให้ผู้ประนีประนอมไปไกล่เกลี่ยคดียังจังหวัดอื่นเพิ่มเติม และควรประสานงานกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดในพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คู่ความทราบถึงกิจกรรมดังกล่าวด้วย จากนั้น ประธานศาลฎีกาเชิญชวนให้แต่ละศาลเข้าร่วมโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นเพื่อประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2 โดยนอกจากงานด้านบริหารจัดการคดีแล้ว ก็ยังต้องเน้นเรื่องงานบริการประชาชนด้วย จึงขอให้แข่งขันกันพัฒนาระบบงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการและเกิดความพึงพอใจสูงสุดในการติดต่อราชการศาล
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ 2 มิ.ย. 2566 ประธานศาลฎีกาและคณะมีกำหนดการที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลอีก 2 แห่ง คือศาลจังหวัดนครสวรรค์และศาลอุทธรณ์ภาค 6