xs
xsm
sm
md
lg

“ป.ป.ส.-ทหารเรือ” จับเรือประมงซุกไอซ์ 909 กก. กลางทะเล จ.ระยอง เตรียมส่งแดนจิงโจ้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ป.ป.ส. ร่วมภาคี รวบผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ 909 ก.ก. บนเรือประมงกลางทะเลอ่าวไทย เตรียมขนส่งเรือสินค้าปลายทางออสเตรเลีย ตามยึดทรัพย์สิน 5.2 ล้านบาท

วันนี้ (1 มิ.ย.) ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ร.ท.สิทธิชัย ต่างใจ รองเสนาธิการทหารเรือ , พล.ร.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด , น.ส.พรทิพย์ แจ่มพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส.ภ.2 , น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ เสนาธิการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และ น.อ.ณรงค์ นุสุวรรณ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ร่วมแถลงข่าวจับกุมเรือประมงบรรทุกไอซ์ 909 กก. พร้อมผู้ต้องหา 6 คน ได้ที่ กลางทะเลอ่าวไทย ทิศใต้ของเกาะเสม็ด จ.ระยอง

​นายวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ป.ป.ส. สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ มีพฤติการณ์ใช้เรือประมงขนาดกลาง ลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภท ไอซ์ และ เฮโรอีน (ระดับ 1,000 กก.) ไปส่งต่อให้เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่บริเวณกลางทะเลอ่าวไทย อยู่นอกเขตประเทศไทย ในน่านน้ำสากล ซึ่งกฎหมายไทยไม่สามารถเอาผิดได้ จึงสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด นำชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และกองบัญชาการกองทัพไทย สืบสวนติดตามพฤติการณ์ขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว ร่วม 4 เดือน

กระทั่งวันที่ 30 พ.ค.66 ชุดสังเกตการณ์พบเหตุต้องสงสัย โดยเครือข่ายนี้มีการลำเลียงถังสแตนเลสเปล่า น้ำมัน เสบียงอาหาร เข้าใต้ท้องเรือ เพื่อเตรียมการสำหรับภารกิจบางอย่าง และสำแดงเป็นสินค้าชนิดอื่น ชุดปฏิบัติการจึงวางเวรยาม 24 ชม. เพื่อสังเกตการณ์ จากนั้น เวลา 20.45 น. พบรถกระบะนำกระสอบสีขาวจำนวนมากเข้าพื้นที่และลำเลียงกระสอบลงเรือประมง ก่อนออกเรือในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามและเข้าจับกุมเรือประมง บริเวณกลางทะเลอ่าวไทยทางทิศใต้ของเกาะเสม็ด อ.แกลง จ.ระยอง (ห่างจากฝั่ง 20 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 37.04 กิโลเมตร อยู่ในเขตน่านน้ำไทย) จับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมยึดไอซ์ 909 กก. ซึ่งหากหลุดไปยังเรือสินค้าขนาดใหญ่นอกเขตไทยจะทำให้ไม่สามารถจับกุมได้

จากนั้นขยายผลตรวจค้น 7 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ระยอง 5 จุด และ กทม. 2 จุด ยึดเรือประมงขนาดกลาง 1 ลำ รถยนต์ 6 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน สมุดบัญชีธนาคาร บัตร ATM และทรัพย์สินอื่นๆ รวม 19 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 5.2 ล้านบาท และได้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าที่ใช้เก็บพักไอซ์ในพื้นที่ จ.ระยอง ภายในบ้านพบถุงกระสอบที่ผู้ต้องหาแกะยาเสพติดออก และกระสอบที่เตรียมแพ๊คใส่ ก่อนส่งทางเรือ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าลำเลียงยาเสพติดของกลางมาจาก กทม. ก่อนส่งลงเรือที่ จ.ระยอง และพบคีตามีน 1 ถุง (สำหรับใช้เสพ) รับสารภาพว่า ทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของเรือได้ให้การว่ายาเสพติดเตรียมลำเลียงส่งต่อเรือเหล็กขนาดใหญ่กลางทะเล คาดการณ์ว่ายาเสพติดดังกล่าวเตรียมส่งต่อไปยังออสเตรเลีย

ส่วนรูปแบบการลักลอบขนยาเสพติดผ่านทางทะเลมีมานานแล้ว โดยขบวนการขนยาเสพติดจะไม่เลือกว่าเป็นน่านน้ำอ่าวไทย หนืออันดามัน แต่จะอาศัยช่วงที่คาดว่าปลอดภัยจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ สำหรับเครือข่ายดังกล่าวมีต้นทางจากสามเหลี่ยมทองคำ ส่งมาพักของบริเวณภาคกลาง ก่อนกระจายลงทางภาคใต้ไปยังประเทศมาเลเซีย หรือออกทางภาคตะวันออก ทั้งนี้ สาเหตุที่เครือข่ายนี้ใช้เรือประมงขนยาเสพติดจาก จ.ระยอง ส่งเรือบรรทุกสินค้าเพราะระยะทางใกล้น่านน้ำสากล อย่างไรก็ตาม ยาเสพติดไอซ์จะส่งออกต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะมีการสืบสวน เพื่อขยายผลยึดทรัพย์สินเครือข่ายนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงข้อมูลปลายทางที่ยาเสพติดจะถูกส่งไปเพื่อประสานงานกับประเทศปลายทาง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติในการจัดการกับเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ที่ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพบการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศไทยไปออสเตรเลียบ่อยครั้ง ซึ่งจะต้องจับตาการขนส่งในทุกช่องทางทั้งบก-น้ำ-อากาศ ควบคู่กับการขยายผลเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น